ฮุย รั่วชี แชมป์โอลิมปิกเชื่อดาวรุ่งจะช่วยคืนความแข็งแกร่งให้ทีมวอลเลย์บอลหญิงจีน – แฟนฮ่องกงเตรียมชมทีมชุดใหม่ลุยศึกเนชั่นส์ ลีก ที่ไก่ตั๊ก มิถุนายนนี้
ฮุย รั่วชี อดีตนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติจีนเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก เผยว่า การเติมเลือดใหม่เข้าสู่ทีมชุดใหญ่จะช่วย “เพิ่มพลังชีวิตให้ทีม” พร้อมแสดงความมั่นใจว่าดาวรุ่งรุ่นใหม่จะเป็นกำลังสำคัญในการลุ้นเหรียญรางวัลในโอลิมปิกเกมส์ ที่ลอสแอนเจลิส ปี 2028
อดีตผู้เล่นตำแหน่งหัวเสา วัย 33 ปี เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกจากริโอ 2016 ให้สัมภาษณ์ระหว่างการแถลงข่าวเปิดตัวการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงเนชั่นส์ ลีก 2025 สนามฮ่องกง ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-22 มิถุนายนนี้ ที่สนามไคตัก อารีนา โดยถือเป็นครั้งแรกที่การแข่งขันไม่ได้จัดที่โคลีเซียม นับตั้งแต่การแข่งขันเริ่มมาเยือนฮ่องกงครั้งแรกเมื่อปี 2018
ในขณะที่ทีมชาติจีนกำลังปรับเป้าหมายสู่การคว้าเหรียญในโอลิมปิกปี 2028 ทีมชุดปัจจุบันจึงมีการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นครั้งใหญ่ เหลือเพียงผู้เล่นตัวหลักจากชุดแชมป์เวิลด์คัพ 2019 อย่าง กง เซียงอวี่, หลี่ อิ๋งอิ๋ง, หวัง หยวนหยวน และ หวัง เมิ่งเจี๋ย ที่ยังอยู่ในทีม ขณะที่อีกหลายรายเป็นดาวรุ่งจากทีมชุดแชมป์เยาวชนโลก ยู-17 และแชมป์เอเชีย ยู-18 เมื่อปีที่ผ่านมา
“ฉันได้ชมการซ้อมเปิดของทีมผ่านการถ่ายทอดสด บอกได้เลยว่าการซ้อมเข้มข้นมาก” ฮุย กล่าว “ฉันเองก็เข้าร่วมทีมชาติตั้งแต่อายุ 17 รู้ดีว่าทั้งความตื่นเต้นและความกดดันเป็นอย่างไรสำหรับเด็กๆ กลุ่มนี้”
ทีมชาติจีนกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน หลังแยกทางกับ “ไช ปิน” อดีตเฮดโค้ชที่อำลาตำแหน่งหลังพาทีมจอดป้ายแค่รอบก่อนรองชนะเลิศในโอลิมปิกที่ปารีส โดย “จ้าว หย่ง” กุนซือคนใหม่ได้รับมอบหมายให้พาทีมทำผลงานให้ดีกว่าที่เคยได้เพียงอันดับ 4 ในเนชั่นส์ ลีก ปีที่ผ่านมา พร้อมกับเตรียมทีมสู่เป้าหมายใหญ่ในอีก 3 ปีข้างหน้า
แม้ทีมชุดนี้จะขาดประสบการณ์ในระดับทีมชาติชุดใหญ่ แต่ฮุยยังคงเชื่อมั่นเต็มที่ว่าเด็กๆ จะทำผลงานได้ดี
“ฉันมั่นใจในตัวพวกเขามาก” เธอกล่าว “เมื่อลองดูรายชื่อทีมปีนี้ ก็ไม่ใช่แค่จีนที่ใช้ผู้เล่นหน้าใหม่ หลายชาติเองก็เช่นกัน ดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาสทอง เด็กๆ อาจจะยังเยาว์วัย อาจดูไร้เดียงสาในบางจังหวะ แต่พวกเขากล้าก้าวออกมาเผชิญหน้ากับทีมระดับโลก และที่สำคัญคือคู่แข่งอาจยังไม่รู้วิธีรับมือกับ จีนยุคใหม่ นี้ด้วยซ้ำ”
การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงเนชั่นส์ ลีก ปีนี้จะเริ่มต้นรอบแรกในจีน แคนาดา และบราซิล ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน ก่อนจะย้ายมาที่ฮ่องกง ตุรกี และเซอร์เบียในรอบที่สอง โดยแฟนๆ ฮ่องกงจะได้ชมทีมชาติจีนลงสนามพบกับ บัลแกเรีย, อิตาลี, ไทย, ญี่ปุ่น และเช็ก ตลอดระยะเวลา 5 วันของการแข่งขัน
อึ้ง ซาว กี ประธานสมาคมวอลเลย์บอลฮ่องกง กล่าวถึงการย้ายสนามมาใช้ไคตัก อารีนา แทนว่า “ไคตักเป็นสนามที่ทันสมัยที่สุดของฮ่องกง และมีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับสากล เช่น สนามวอร์มอัพครบครัน ทำให้เหมาะสมกับการต้อนรับทีมจากต่างประเทศ”
อย่างไรก็ตาม อึ้งเตือนแฟนๆ ว่า ความจุของสนามซึ่งปกติอยู่ที่ 10,000 ที่นั่ง จะถูกจำกัดลงในปีนี้ โดยยังไม่ระบุว่าจะลดลงเท่าไร
“เราต้องก้าวไปข้างหน้า ปีนี้จะยังไม่เปิดเต็มความจุ เพราะอยากให้แฟนๆ ปรับตัวกับรูปแบบสนามใหม่เสียก่อน ปีหน้าค่อยเพิ่มที่นั่งจนใกล้เคียงกับโคลีเซียม” เขากล่าว พร้อมเสริมว่า ปีที่แล้วสนามโคลีเซียมมีแฟนเข้าชมเต็มความจุถึง 10,500 คน
