กลายเป็นกุนซือคนใหม่ของทัพ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เรียบร้อยแล้วสำหรับ รูเบน อโมริม กุนซือชาวโปรตุเกส ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมทุ่มเงิน 10 ล้านยูโร ฉีกสัญญากับต้นสังกัดเก่า สปอร์ติง ลิสบอน ให้มานั่งเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่แบบด่วนจี๋
รูเบน อโมริม เกิดเมื่อวันที่ 27 มกราคม 1985 ที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส สมัยเป็นนักเตะเขาลงเล่นให้กับ เบเลเนนเซส และไปโด่งดังอยู่กับ เบนฟิกา ก่อนจะแขวนสตั๊ดด้วยวัยเพียง 31 ปีเท่านั้น
หลังแขวนสตั๊ด อโมริม เข้าร่วมอบรมการเป็นโค้ชกับสมาคมฟุตบอลเมืองลิสบอน และเริ่มทำงานเป็นผู้จัดการทีมให้กับสโมสร คาซ่า เปีย ในดิวิชั่น 3 แต่ทำได้ไม่นานก็ลาออกเนื่องจากมีปัญหาใบอนุญาตโค้ช ก่อนจะมาได้งานใหม่ด้วยการไปเป็นโค้ชทีมสำรองของ บราก้า ในเดือน ก.ย. 2019
ต่อมา บราก้า เกิดการเปลี่ยนแปลง เมื่อ ริคาร์โด้ ซา ปินโต้ ถูกปลดออกจากตำแหน่งกุนซือ อโมริม จึงได้รับการเลื่อนขึ้นเป็นกุนซือคนใหม่ของสโมสร ในปีเดียวกัน
ในเวลานั้น บราก้า รั้งอันดับ 8 ของลีก แต่เมื่อได้ อโมริม เข้ามา เขาก็พลิกสถานการณ์จนพาทีมคว้าแชมป์ ลีก คัพ ได้สำเร็จ จากการโค่นยักษ์ใหญ่อย่าง เอฟซี ปอร์โต้ ในรอบชิงชนะเลิศ โดยใช้เวลาแค่ 3 สัปดาห์นับตั้งแต่เขาขึ้นมาเป็นกุนซือใหญ่
ด้วยผลงานที่โดดเด่นในการเป็นโค้ชแม้เพิ่งได้คุมทัพให้ บราก้า แค่ 2 เดือน รวม 13 นัดเท่านั้น แต่ก็ทำให้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ยอมเสี่ยงครั้งสำคัญด้วยการจ่ายค่าฉีกสัญญามูลค่าถึง 10 ล้านยูโรเพื่อคว้าตัว อโมริม ไปเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ นับเป็นสถิติค่าตัวผู้จัดการทีมที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลโปรตุเกสทีเดียว
รูเบน อโมริม ได้รับการแต่งตั้งเป็นกุนซือคนใหม่ของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในวันที่ 4 มี.ค. 2020 และก็ช่วยให้ สปอร์ติ้ง ที่ย่ำแย่มาตลอด ขยับขึ้นมาจบอันดับ 4 คว้าตั๋วลุยศึกยูโรปาลีกได้สำเร็จ
จากนั้นในฤดูกาล 2020/21 อโมริม ก็สร้างความฮือฮาด้วยการพา สปอร์ติ้ง คว้าดับเบิ้ลแชมป์ ทั้งลีกสูงสุดและลีกคัพ โดยเฉพาะในลีกที่เป็นการได้แชมป์สมัยแรกในรอบ 19 ปีของสโมสรทีเดียว
ต่อมาในฤดูกาล 2021/22 สปอร์ติ้ง ก็ยังคว้าแชมป์บอลถ้วยได้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่ผลงานในลีกนั้นจบอันดับ 2 ก่อนที่ในซีซั่น 2022/23 ผลงานจะเริ่มตกลงเนื่องจากเสียผู้เล่นคนสำคัญหลายคนอย่าง นูโน เมนเดส, ชูเอา ปาลินญ่า และ มาเธอุส นูนเญซ ทำให้จบแค่อันดับ 4 เท่านั้น
ขณะที่ในฤดูกาล 2023/24 อโมริม กลับมาทวงความสำเร็จให้กับ สปอร์ติง ลิสบอน อีกครั้ง ด้วยการกลับมาคว้าแชมป์ลีก ได้สำเร็จ โดยการเก็บไปถึง 90 คะแนน ขณะที่ในฟุตบอลถ้วยในประเทศก็ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่สุดท้ายไปแพ้ ปอร์โต้ 1-2 ได้แค่รองแชมป์
จากการคุมทัพที่ผ่านมา อโมริม ถือเป็นกุนซือสมัยใหม่ ที่ทำเกมรุกดี และเกมรับเหนียว เป็นเพราะเมื่อมีโอกาส พวกเขามักจะจบสกอร์ได้ และช่วยกันตั้งรับได้อย่างดี โดยระบบการเล่นที่ อโมริม นิยมใช้คือ 3-4-3 หรือ 3-4-2-1 สร้างเกมด้วยการดันสูงทั้งทีม มีความยืดหยุ่นในเกมรุก และมีการจัดระเบียบที่แข็งแกร่งในเกมรับ
ว่ากันว่า อโมริม ยังมีความคล้ายคลึงกับ โฮเซ มูรินโญ กุนซือรุ่นพี่ร่วมชาติไม่น้อย โดย อโมริม นั้นมี มูรินโญ เป็นไอดอล และเขาก็เคยมาขอฝึกงานกับ มูรินโญ สมัยที่คุมแมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2018 มาแล้วด้วย
เชื่อว่าสาวก “ปีศาจแดง” ทุกคนคงกำลังที่จะได้เห็นทีมในสไตล์ของ อโมริม แบบเต็มๆตา เพราะเขาคือความหวังที่จะเข้ามากอบกู้ความสำเร็จของทีมกลับมา