เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบอนุมัติงบประมาณกรณีการจัดแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอล “เอฟไอวีบี วีเมนส์ วอลเลย์บอล เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2025” วงเงิน 1,124.50 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอ โดยมาจากเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ค่าบัตรเข้าชม และงบกลาง ซึ่งการอนุมัตินี้จะก่อให้เกิดการใช้จ่ายเรื่องรายได้จากผู้ชมทั่วโลก และคาดว่าจะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่จะได้รับจัดการแข่งขันประมาณ 8,435.70 ล้านบาท
นายคารม กล่าวว่า สำหรับค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอล “เอฟไอวีบี วีเมนส์ วอลเลย์บอล เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2025” วงเงินรวมทั้งสิ้น 1,124.50 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้
1.ค่าที่พักและอาหาร จำนวน 67.82 ล้านบาท
2. ค่าตอบแทนบุคลากร จำนวน 16.00 ล้านบาท
3. ค่าใช้จ่ายสนามแข่งขัน/ฝึกซ้อม จำนวน 168.53 ล้านบาท
4. ค่าพาหนะหรือค่าน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน 9.27 ล้านบาท
5. ค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์การแข่งขัน จำนวน 30.50 ล้านบาท
6. เงินอุดหนุนการดำเนินการจัดการแข่งขันSME จำนวน 10.50 ล้านบาท
7. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ค่าพิธีเปิด – พิธีปิด ค่าผลิตถ้วยรางวัลและของที่ระลึก ค่าดำเนินการเก็บและวิเคราะห์ด้านมูลค่าทางเศรษฐกิจ และค่าจัดทำบูธการแสดงสินค้าหน้าสนามแข่งขัน จำนวน 28.82 ล้านบาท
8. ค่าลิขสิทธิ์การจัดการแข่งขัน จำนวน 630.00 ล้านบาท
9. ค่าอนุสัญญาภาษีซ้อน จำนวน 111.18 ล้านบาท
10. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 51.88 ล้านบาท
ทั้งนี้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยได้มีการหารือกับสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) เกี่ยวกับความพร้อมในการจัดการแข่งขันดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว โดยมีกำหนดจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม – 7 กันยายน 2568 ใน 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ นครราชสีมา และภูเก็ต
“การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นโอกาสในการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของประเทศไทย รวมทั้งก่อให้เกิดรายได้จากการใช้จ่ายเงินของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาติดตามชมการแข่งขันในประเทศไทย การใช้จ่ายเงินของนักกีฬา เจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนก่อให้เกิดมูลค่าด้านการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียทั่วโลกจากผู้เข้าชมการแข่งขันกว่า 1,300 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจที่คาดว่าจะได้รับจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาทั้งสิ้นประมาณ 8,435.70 ล้านบาท” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ