หลังจาก สมาคมวอลเลย์บอลแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SAVA) ได้จัดประชุมชาติสมาชิกเพื่อพูดคุยถึงการแข่งขันวอลเลย์บอลในภูมิภาคอาเซียน ปี 2566 โดยมีชาติสมาชิกเข้าร่วม 10 ประเทศจาก 11 ประเทศ โดยในงานมี ริตา ซูโบวา (อินโดนีเซีย) ประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย (AVC) เป็นประธาน พร้อมด้วย นายเกียรติพงศ์ รัชตเกรียงไกร เลขาธิการสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย และ นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย และ ประธานสมาคมวอลเลย์บอลแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึง เรืออากาศโท ชาญฤทธิ์ วงศ์ประเสริฐ รองประธานกิตติมศักดิ์ตลอดชีพสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย เข้าร่วมงาน
โดยหนึ่งในหัวข้อการประชุมดังกล่าวนั้นได้มีการรับทราบร่วมกันว่า การแข่งขันอาเซียน กรังด์ปรีซ์ ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น ซี วีลีก (SEA V.League) ซึ่งจะแข่งขันทั้งประเภททีมชายและหญิง ชิงเงินรางวัลทุกสัปดาห์ เจ้าภาพมี 4 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม และไทย ทีมชาย แข่งขันวันที่ 21-23 ก.ค. ที่อินโดนีเซีย และวันที่ 28-30 ก.ค. ที่ฟิลิปปินส์ ส่วนทีมหญิง แข่งขันวันที่ 4-6 ส.ค. ที่เวียดนาม และวันที่ 11-13 ส.ค. ที่ประเทศไทย
ล่าสุดเรื่องนี้ ร.ท.ชาญฤทธิ์ วงศ์ประเสริฐ รองประธานกิตติมศักดิ์ตลอดชีพสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย ได้เปิดเผยว่ามีหลายจังหวัดที่อยากจะเป็นเจ้าภาพ ซึ่งทางสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะเลือกจังหวัดใด
“การแข่งขันอาเซียน กรังด์ปรีซ์ ได้มีการพูดคุยกันแล้วว่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น ซี วีลีก (SEA V.League) และจะมีแข่งขันทั้งประเภททีมชายและหญิงในช่วงเดือนกรกฎาคม เริ่มจากประเภททีมชายที่อินโดนีเซีย (21-23 กรกฎาคม) ต่อด้วยฟิลิปปินส์ (28-30 กรกฎาคม) แข่งขันวันศุกร์, เสาร์ และ อาทิตย์ ส่วนผู้หญิงจะเริ่มที่เวียดนาม (4-6 สิงหาคม) และจบที่ประเทศไทย (11-13 สิงหาคม) ก่อนที่จะเริ่มแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย ที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งหากเป็นไปตามนี้ การแข่งขันซี วี ลีก ตกลงกันได้ จะเริ่มแข่งขันในช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 เราจะได้ชมการแข่งขันทุกสัปดาห์ เป็นเวลา 4 สัปดาห์ ส่วนจะแข่งขันที่จังหวัดไหนยังไม่แน่นอน เพราะมีหลายจังหวัดที่อยากจะเป็นเจ้าภาพ นายกสมาคมวอลเลย์บอลกำลังพิจารณาว่าจะไปแข่งขันที่จังหวัดไหน”
“สำหรับการแข่งขันซี วีลีกเป็นรายการที่ชิงเงินรางวัลกันทุกสัปดาห์ ประมาณ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อสัปดาห์ (1.7 ล้านบาทโดยประมาณ) คิดว่าจะเป็นรายการที่ยั่งยืนในอนาคต และจะขยายไปยังประเทศต่าง ๆ ในเร็ว ๆ นี้”
