ฮีโร่ของทัพ “ช้างศึก” นาทีนี้คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ศุภชัย ใจเด็ด ดาวยิงผู้ซัด 2 ประตูให้ ทีมชาติไทย เอาชนะ คีร์กิซสถาน 2-0 นัดประเดิมสนาม เอเชียน คัพ 2023 ที่ประเทศกาตาร์
“อาร์ม” ศุภชัย ใจเด็ด เกิดเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2541 ปัจจุบันอายุ 25 ปี เขาเป็นชาวจังหวัดปัตตานี ที่เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่ 8 ขวบ
ศุภชัย ได้โค้ชเสรี เบญอาเหม็ด เป็นโค้ชคนแรกที่สอนการเล่นฟุตบอลที่ถูกต้อง และถูกวิธีให้กับเขา กระทั่งเขาอายุได้ 10 ปี โอกาสครั้งสำคัญก็มาถึง เมื่อมีโครงการคัดตัวนักฟุตบอลเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี เพื่อไปเตะทัวร์นาเมนต์ที่ โกเตนเบิร์ก ประเทศสวีเดน
ในการคัดตัวครั้งนั้น ศุภชัย ต้องเล่นกับเด็กที่อายุมากกว่าตัวเองถึง 3 ปี แต่เขาก็ทำผลงานได้เข้าตาจนได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งนักเตะติดทีมไปสวีเดนในครั้งนั้น ก่อนจะจบผลงานด้วยอันดับ 9
เวลาล่วงเลยไปจน ศุภชัย อายุ 12 ปี โรงเรียนปทุมคงคา ซึ่งเป็นโรงเรียนชื่อดังด้านฟุตบอล ได้เปิดคัดตัวนักเตะ ทำให้ “อาร์ม” ตัดสินใจ ขอคุณพ่อคุณแม่ไปคัดตัว ซึ่งตอนแรกนั้น คุณพ่อและคุณแม่ ไม่เห็นด้วย เพราะหากคัดเลือกติดต้องไปใช้ชีวิตลำพังเมืองหลวงจึงเกิดความเป็นหวง แต่สุดท้าย ศุภชัย ก็ได้ไปขอร้องคุณครู และญาติๆ ให้ไปช่วยคุยกับคุณพ่อคุณแม่ให้อนุญาตไปคัดตัว จนคุณพ่อคุณแม่ ยอมใจอ่อน
ศุภชัย ในวัย 12 ปี กำเงิน 1,500 บาท ติดตัวไปพร้อมกับโทรศัพท์หนึ่งเครื่อง เดินทางด้วยรถไฟเข้าสู่กรุงเทพ เพื่อไปคัดตัวกับ ปทุมคงคา แต่สุดท้าย เมื่อทางโรงเรียนประกาศรายชื่อ 9 คนที่ได้รับเลือกออกมา ดันไม่มีชื่อเขา ทำให้ ศุภชัย เสียใจเป็นอย่างมาก จนเกือบจะกลับปัตตานี อยู่แล้ว แต่สุดท้ายก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาหา ปลายสายคือ อาจารย์ วลลภ สนามทอง ที่บอกกับเขาว่า ได้รับการคัดเลือกเป็นคนที่ 10 แต่ทางโรงเรียนลืมใส่ชื่อไว้แค่นั้น
หลังจากนั้น ศุภชัย ได้เข้าฝึกฝนและสร้างชื่อกับ ปทุมคงคา ก่อนที่จะเข้ามาอยู่กับ สโมสรโอสถสภา หรือ ซุปเปอร์ พาวเวอร์ ในปี พ.ศ. 2558 โดยลงเล่น 20 นัด ทำได้ 1 ประตู ก่อนตัดสินใจย้ายร่วมทัพ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่ปี 2560
ปัจจุบัน เขาลงเล่นกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดไปแล้ว 175 นัดทำได้ 51 ประตู และเป็นผู้คว้าตำแหน่งดาวซัลโวไทยลีก ฤดูกาล 2565 – 2566 ยิงไปทั้งหมด 19 ประตู ถือเป็นคนไทยคนแรกในรอบ 10 ปี หลังจาก “ธีรศิลป์ แดงดา” ทำได้ในฤดูกาล 2555
ศุภชัย ประสบความสำเร็จมากมายในเส้นทางอาชีพกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยคว้าแชมป์ ไทยลีก 4 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย, ลีก คัพ 2 สมัย, แม่โขงคลับ 1 สมัย และไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ อีก 1 สมัย
ส่วนในนามทีมชาติ เขาถูกเรียกติดทีมชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี ตั้งแต่ปี 2558 ลงเล่น 16 นัด ทำได้ 7 ประตู จากนั้นติดทีม เยาวชนอายุไม่เกิน 21 ปี ตั้งแต่ปี 2560 ลงเล่น 2 นัด ทำได้ 1 ประตู และติดทีม ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ลงเล่น 16 นัด ทำได้ 10 ประตู
ขณะที่ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ก็ถูกเรียกติดทีมตั้งแต่ปี 2561 ลงเล่นไปแล้ว 32 นัด ทำได้ 6 ประตู พร้อมกับมีแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ติดมือ 1 สมัย
อนาคตของ ศุภชัย กับทีมชาติไทย ยังอีกยาวไกล การยิง 2 ประตูได้ในเวทีใหญ่ระดับเอเชีย น่าจะทำให้เขาไม่ต้องพิสูจน์อะไรอีกแล้ว ว่าจะสามารถก้าวขึ้นมาทดแทน ดาวยิงเบอร์ 1 ของไทยอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา ซึ่งเป็นรุ่นพี่ได้หรือไม่
