นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย เรืออากาศโทชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสริฐ ประธานอำนวยการสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย และพันจ่าอากาศเอกนัฐพงศ์ เกษาพันธ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ได้เข้าพบคุณสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เพื่อขอความร่วมมือและการสนับสนุนในการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกรกฎาคม 2568
การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก (FIVB Volleyball Women’s World Championship) เป็นการแข่งขันวอลเลย์บอลระดับนานาชาติที่จัดขึ้นโดยสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) จัดขึ้นครั้งแรกในปี 1952 และจัดขึ้นทุกๆ 4 ปี
สำหรับในปี 2025 ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้รับหน้าที่นี้ ซึ่งการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับโลกเช่นนี้ไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมกีฬาวอลเลย์บอลในประเทศ แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ
อย่างไรก็ตาม การจัดการแข่งขันระดับนานาชาติต้องการงบประมาณและทรัพยากรจำนวนมาก ซึ่งสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย เคยระบุว่าอาจต้องใช้งบประมาณสูงถึง 1 พันล้านบาท แม้จะได้การสนับสนุนจากรัฐบาลแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอ จำเป็นต้องหาผู้สนับสนุนเพิ่มเติม นอกเหนือจากการสนับสนุนจากรัฐบาล เพื่อให้การจัดการแข่งขันเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ
การเข้าพบคุณสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชียในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการหาผู้สนับสนุนจากภาคเอกชน ซึ่งสายการบินไทยแอร์เอเชียเป็นสายการบินที่มีชื่อเสียงและมีเครือข่ายการบินที่ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ การสนับสนุนจากไทยแอร์เอเชียจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการจัดการแข่งขัน ทั้งในด้านการขนส่งนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และผู้ชม
นอกจากนี้ การสนับสนุนจากภาคเอกชนยังช่วยลดภาระงบประมาณของรัฐบาล และเปิดโอกาสให้บริษัทต่างๆ ได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมกีฬาของชาติ การมีส่วนร่วมของภาคเอกชนยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร และเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน
การจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกในประเทศไทยครั้งนี้ คาดว่าจะดึงดูดผู้ชมทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าร่วมชมการแข่งขัน ซึ่งจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสที่ดีในการแสดงศักยภาพของประเทศไทยในการจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ
นอกจากนี้สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยยังมีแผนที่จะจัดกิจกรรมเสริมต่างๆ ควบคู่ไปกับการแข่งขัน เช่น การจัดนิทรรศการเกี่ยวกับวอลเลย์บอล การจัดคลินิกสอนวอลเลย์บอลสำหรับเยาวชน และการจัดงานเลี้ยงต้อนรับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จากประเทศต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ
ในส่วนของการเตรียมความพร้อม สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อปรับปรุงสถานที่จัดการแข่งขัน ระบบขนส่ง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อให้พร้อมรองรับนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และผู้ชมจากทั่วโลก โดยมี 4 จังหวัดเจ้าภาพ ที่กระจายจัดการแข่งขันตามกลุ่มดังนี้
กรุงเทพฯ ใช้อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก ซึ่งถือว่าเป็นสนามหลักของวอลเลย์บอลทีมชาติไทยอยู่แล้ว จัดแมตช์ระดับนานาชาติทุกรายการ โดยกลุ่ม เอ – ไทย, อียิปต์, สวีเดน, เนเธอร์แลนด์ กับ กลุ่ม เอช – ญี่ปุ่น, แคเมอรูน, ยูเครน, เซอร์เบีย จะแข่งสนามนี้
ภูเก็ต ใช้สนามกีฬาในร่ม สะพานหิน ที่มีความจุถึง 4,000 ที่นั่ง โดยกลุ่ม บี – อิตาลี, สโลวาเกีย, คิวบา, เบลเยียม กับ กลุ่ม จี – โปแลนด์, เวียดนาม, เคนยา, เยอรมนี จะแข่งสนามนี้
เชียงใหม่ ใช้ศูนย์ประชุมแสดงสินค้านานาชาติ เป็นสนามที่จัดหลากหลายอย่าง และใหญ่ที่สุดในจังหวัดนี้ โดยกลุ่ม ซี – บราซิล, กรีซ, ฝรั่งเศส, เปอร์โตริโก กับ กลุ่ม เอฟ – จีน, เม็กซิโก, โคลอมเบีย, สาธารณรัฐโดมินิกัน จะแข่งสนามนี้
นครราชสีมา ใช้สนามชาติชายฮอล์ เป็นที่คุ้นเคยของสาวกวอลเลย์บอลอยู่แล้วเพราะสนามแห่งนี้ผ่านการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลมาแล้วทุกรายการ โดยกลุ่ม ดี – สหรัฐอเมริกา, สโลวีเนีย, อาร์เจนตินา, สาธารณรัฐเช็ก กับ กลุ่ม อี – ตุรกี, สเปน, บัลแกเรีย, แคนาดา จะแข่งสนามนี้