สเตฟาน เดอ ฟาย ถือเป็นอีกหนึ่งกองหลังระดับโลก ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งกับอินเตอร์ มิลาน และเป็นที่จับตาจากหลายทีมยักษ์ใหญ่มาหลายปี
สเตฟาน เดอ ไฟรจ์ เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 1992 ที่ Ouderkerk aan den IJssel ประเทศเนเธอแลนด์ เขาเป็นลูกชายของ แยน เดอ ไฟรจ์ อดีตนักฟุตบอลที่ค้าแข้งกับ วีวี สปิริต นั่นทำให้เขาและพี่น้องอีกสองคน เลือกที่จะเล่นฟุตบอลตามคุณพ่อ และได้รับการฝึกฝนทักษะมาตั้งแต่เด็ก
เดอ ไฟรจ์ เริ่มเข้าไปฝึกอยู่กับทีมเยาวชนของ วีวี สปิริต ทีมที่คุณพ่อเขาค้าแข้งอยู่ ตอนอายุ 6 ขวบ ก่อนจะใช้เวลา 5 ปีในการฝึกฝนฝีเท้า จากนั้นถึงจะเริ่มคิดว่าตนเองควรก้าวไปสู่ระดับที่ดีกว่านี้ จึงลองไปคัดฝีเท้ากับ เฟเยนูร์ด และถูกเลือกเข้าทีมในที่สุด
หลังจากย้ายมาอยู่กับ เฟเยนูร์ด ความสามารถของเขาพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ด้วยสรีระร่างกายที่สูงใหญ่ และเซนส์ในการอ่านเกมเป็นเลิศ ทำให้เขากลายเป็นปราการหลังที่มีความโดดเด่น และถูกเรียกติดทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ชุดยู-16 ในปี 2007
หลังจากนั้น เดอ ไฟรจ์ ก็อยู่ในสารบบทีมชาติมาโดยตลอด ขณะที่กับที่เส้นทางกับ เฟเยนูร์ด ก็ถูกดันขึ้นมาเล่นในชุดใหญ่ปี 2009
เดอ ไฟรจ์ ลงเล่นเป็นแกนหลักให้กับ เฟเยนูร์ด ได้ 5 ฤดูกาล ระะหว่างนั้นเขากลายเป็นปราการหลังดาวรุ่งที่ได้รับความสนใจจากหลายทีมยักษ์ใหญ่ โดยเฉพาะกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่สุดท้ายในปี 2014/15 เขาก็เลือกย้ายไปอยู่กับ ลาซิโอ ด้วยเหตุผลว่า ลาซิโอ เป็นทีมเดียวที่ต้องการตัวเขาอย่างจริงจัง
เดอ ไฟรจ์ ร่วมคว้าแชมป์ ซูเปอร์โคปปา กับ ลาซิโอในปี 2017 เขากลายเป็นกองหลังชั้นนำใน เซเรียอา อิตาลี ด้วยระยะเวลาอันรวดเร็ว ระหว่างนั้นก็ยังมีข่าวว่าได้รับความสนใจจากหลายทีมอย่างต่อเนื่อง
กระทั่งฤดูกาล 2018/19 หลังจากจดๆจ้องๆอยู่นานก็เป็น อินเตอร์ มิลาน ที่ดึงตัวเขามาร่วมทีมในที่สุด ก่อนที่จะประสบความสำเร็จอย่างมาก เขาร่วมคว้าแชมป์ เซเรีย อา 2020/21 แชมป์โคปปา อิตาเลีย 2021/22 และซูเปอร์โคปปา อีก 2 สมัย
ปัจจุบัน อินเตอร์ มิลาน กำลังลุ้นเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก โดยรอบรองชนะเลิศ เอาชนะ เอซี มิลาน 2-0 ในนัดแรก หากสุดท้ายแล้วอินเตอร์ สามารถเข้าชิงชนะเลิศ หรือคว้าแชมป์ได้ ผลงานในเกมรับอันเหนียวแน่น ต้องยกให้ เดอ ไฟรจ์ ไปแบบเต็มๆ
