หลี่ นา อดีตนักเทนนิสหญิงชาวจีนดีกรีเจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม “เฟรนช์ โอเพ่น” และ “ออสเตรเลียน โอเพ่น” ออกมากล่าวถึงความสำเร็จของวงการเทนนิสจีนในช่วงหลังว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด
โดยวงการเทนนิสจีนมีการพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังปัจจุบันมีนักหวดมือดังหลายรายที่มาจาก “แดนมังกร” ซึ่งแตกต่างจากช่วงก่อนหน้านี้ที่แทบจะไม่มีแร็กเกตจากจีนคนใดประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ
และสิ่งที่พิสูจน์ในเรื่องดังกล่าวคือการที่ เจิ้ง ฉินเหวิน มือ 7 ของโลกสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักเทนนิสหญิงจากจีนคนแรกซึ่งสามารถคว้าเหรียญทองประเภทหญิงเดี่ยวในศึกโอลิมปิกมาครองด้วยการเอาชนะ ดอนนา เวคิช นักหวดมือวางอันดับ 21 ของโลกจากโครเอเชีย 2 เซ็ตรวด สกอร์ 6-2 และ 6-3
ล่าสุด หลี่ นา อดีตนักเทนนิสจีนซึ่งได้รับการยกย่องว่า ประสบความสำเร็จที่สุดของวงการก่อนหน้านี้หลังผงาดคว้าแชมป์แกรนด์สแลม 2 รายการได้ออกมากล่าวถึงความสำเร็จของวงการเทนนิสแดนมังกรในยุคปัจจุบันว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด “มีคนจำนวนมากบอกกว่าคงไม่ได้เห็นนักเทนนิสจีนคว้าแชมป์แกรนด์สแลมแล้ว แต่ตอนนี้ความคาดหวังเปลี่ยนไป คงไม่ต้องรอนานถึง 10 ปี มันจะดีกว่าถ้าตั้งเป้าว่าจะได้เห็นอีกครั้งใน 5 ปีข้างหน้า”
“บรรยากาศของวงการเทนนิสในจีนดีมากๆ ไม่ใช่แค่ฝ่ายหญิง แต่ชายเดี่ยวก็มีนักเทนนิสที่ติดท็อป 100 ของโลก 2 คนแล้วอย่าง จาง จี้เจิน อยู่ในอันดับ 48 ของโลก และซาง จุนเฉิง ในอันดับ 66 ของโลก ต่างกับตอนที่ฉันยังเล่นเทนนิสอยู่ ตอนนั้นกลัวมากที่จะถูกถามเทนนิสชายของจีน สิ่งที่เกิดขึ้นกับวงการเทนนิสจีนในตอนนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจะจบไป ไม่ได้เป็นความบังเอิญ แต่เป็นพัฒนาการที่ดีมากๆ”
ทั้งนี้ หลี่ นา เพิ่งเข้ามารับบทบาทเป็นผู้อำนวยการแข่งขันรายการ “ฮ่องกง เทนนิส โอเพ่น 2024” ระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน ที่ฮ่องกง หลังจากแขวนแร็กเกตไปในปี 2014 ซึ่งเธอประสบความสำเร็จอื่นๆ นอกจากแชมป์แกรนด์สแลม 2 รายการนั่นก็คือ การเคยขึ้นไปถึงมือ 2 ของโลกเมื่อปี 2014 พร้อมคว้าแชมป์มาครองในอาชีพได้รวม 9 รายการ และโกยเงินรางวัลรวมทั้งหมด 16,709,074 ล้านดอลลาร์สหรัฐ