ทีมนักหวดสาวไทยรวมพลังสู้สุดใจ ก่อนแซงชนะเกาหลีใต้สุดมัน 2-1 คู่ ในศึกเทนนิสชิงแชมป์โลก ประเภททีมหญิง รายการ “2025 บิลลี จีน คิง คัพ บาย เกนบริดจ์” โซนเอเชีย/โอเชียเนีย กลุ่ม 1 ทำให้ผ่าน 3 เกม ไทยชนะ 2 แพ้ 1 รั้งอันดับ 3 ยังรักษาโอกาสเป็น 1 ใน 2 ทีม ที่จะเข้าไปเล่นในรอบเพลย์ออฟเวิลด์กรุ๊ป
การแข่งขันเทนนิสชิงแชมป์โลก ประเภททีมหญิง รายการ “2025 บิลลี จีน คิง คัพ บาย เกนบริดจ์” หรือศึก “บีเจเคซี” โซนเอเชีย/โอเชียเนีย กลุ่ม 1 ที่มาลันจ์ เบลวาดี้ สปอร์ต คอมเพล็กซ์ เนชั่นแนล เกมส์ ปาร์ค ที่เมืองปูเน่ รัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 8–12 เม.ย. 2568 โดยรายการนี้ทีมสาวไทย ชิงชัยกับ อินเดีย (เจ้าภาพ), เกาหลีใต้, นิวซีแลนด์, ไต้หวัน และฮ่องกง ในรูปแบบการแข่งขันแบบพบกันหมด หา 2 ทีมที่มีผลงานดีที่สุด ไปแข่งขันรอบเพลย์ออฟ เพื่อชิงตั๋วขึ้นสู่เวิลด์กรุ๊ปต่อไป ส่วนทีมที่ทำผลงานจบในอันดับ 5 และ 6 ต้องหล่นไปแข่งในกรุ๊ป 2 โซนเอเชีย/โอเชียเนีย
ล่าสุดเป็นการแข่งขันวันที่สาม โดยไทย ซึ่งผ่านสองเกมแรก ชนะ 1 แพ้ 1 ลงเล่นแมทช์ที่สาม พบ เกาหลีใต้ ที่ชนะ 1 แพ้ 1 มาเช่นกัน โดยคู่แรก ประเภทเดี่ยวมือ 2 ไทยส่ง “รวงข้าว“ ลัลนา ธาราฤดี มือ 170 ของโลก พบ พัค โซฮยอน มือ 305 ของโลก
เซตแรก “รวงข้าว” แพ้ก่อน 4-6 แต่เซตสองกลับมาเอาคืนได้บ้าง 6-1 เซตสาม ลัลนา ซึ่งขึ้นแท่นก่อน 5-4 ได้โอกาสออกมาเสิร์ฟปิดแมทช์ในเกมที่ 10 แต่ทำไม่สำเร็จ เจ้าตัวถูกเบรกเกมนี้ และมาเสียเกมเสิร์ฟในเกมที่ 12 สุดท้ายพ่าย 5-7 ทำให้แพ้หวุดหวิด 1-2 เซต 4-6, 6-1 และ 5-7 ทีมไทยตามหลัง 0-1 คู่
ทว่าในประเภทเดี่ยวมือ 1 “ไหม” มนัญชญา สว่างแก้ว มือ 110 ของโลก มาเก็บแต้มตีเสมอให้ไทยได้สำเร็จ ในการลงเล่นกับ แบ็ค ดายอน มือ 299 ของโลก โดยแมทช์นี้เป็น “ไหม” ที่เล่นได้อย่างดุดันและครบเครื่องตลอดทั้งเกม สุดท้ายเป็นฝ่ายหวดเอาชนะไปได้ 2-0 เซต 6-4, 6-2 ทำให้ไทยไล่ตีเสมอเป็น 1-1 คู่ และต้องตัดสินผู้ชนะกันในประเภทหญิงคู่
คู่ที่สาม ประเภทหญิงคู่ ไทยส่ง “เอิร์ธ” เพียงธาร ผลิพืช มือคู่ 145 ของโลก และ “อีฟ” พัชรินทร์ ชีพชาญเดช มือคู่ 564 ของโลก ลงดวลกับ คิม ดาบิน มือคู่ 849 ของโลก และ ลี อึนเฮ มือคู่ 485 ของโลก เกมนี้คู่ของไทยเก็บเซตแรกได้ก่อน 6-2 แต่ก็มาพลาดท่าแพ้ในเซตที่สอง 2-6 ต้องตัดสินกันในการเล่นซูเปอร์ไทเบรก ซึ่งปรากฎว่า ทั้ง “อีฟ” และ “เอิร์ธ” ที่ผนึกกำลังกัน ช่วยกันหวดเอาชนะไปได้แบบสุดมัน 10-7 ทำให้เอาชนะไป 2-1 เซต 6-2, 2-6 และซูเปอร์ไทเบรก 10-7 พาทีมไทย ชนะ เกาหลีใต้ 2-1 คู่
ด้านผลอีก 2 คู่ที่แข่งขันพร้อมกัน อินเดีย ชนะ ฮ่องกง 2-1 คู่ และ นิวซีแลนด์ ชนะ ไต้หวัน 2-1 คู่ สรุปหลังผ่านการแข่งขัน 3 แมตช์ นิวซีแลนด์ ยังนำเป็นอันดับ 1 ด้วยผลงานชนะ 3 นัดรวด ส่วนไทย ที่ชนะ 2 แพ้ 1 เท่ากับ อินเดีย อยู่ในอันดับ 3 เนื่องจากผลงานในการพบกันเอง ไทยเป็นรองอินเดีย ด้าน เกาหลีใต้ ชนะ 1 แพ้ 2 อยู่อันดับ 4 ส่วน ฮ่องกง ที่ชนะ 1 แพ้ 2 เช่นกัน อยู่ที่ 5 เนื่องจำนวนจากแมทช์ชนะ-แพ้ที่ลงเล่นเป็นรองเกาหลีใต้ และ ไต้หวัน ที่แพ้รวด 3 เกม อยู่ในอันดับ 6
หลังการแข่งขัน “อีฟ” พัชรินทร์ ชีพชาญเดช เปิดใจหลังเกมว่า แมทช์นี้ค่อนข้างกดดัน เพราะคู่แข่งอย่างเกาหลีใต้ มีนักกีฬามือดี ๆ ในทีมหลายคน ถึงแม้จบ 2 แมตช์แรก สกอร์จะอยู่ที่ 1-1 ต้องมาตัดสินประเภทคู่ แต่ตนและพี่เอิร์ธก็พยายามทำอย่างเต็มที่ทุกลูกทุกแต้ม ช่วงเซตสองที่แพ้ไปจนเหมือนโมเมนตัมจะวกกลับไปทางเกาหลีใต้ พยายามคุยกับพี่เอิร์ธให้กำลังใจกัน และรีเซตตัวเองใหม่ ช่วงเซตตัดสินจึงพยายามเล่นไม่ให้เสียเองก่อน หลังจากวันก่อนมีบทเรียนจากการแพ้อินเดียในช่วงซูเปอร์ไทเบรกมาแล้ว ซึ่งแมทช์นั้นพลาดเยอะในช่วงแรก ทำให้เล่นยากและไล่ไม่ทัน ซึ่งอีก 2 แมตช์ที่เหลือพวกเราจะพยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และจะเก็บให้ได้ทุกแต้ม เพื่อโอกาสไปเล่นเพลย์ออฟเวิลด์กรุ๊ป