น่าเหลือเชื่อจริงๆสำหรับสถานการณ์ของ อองโธนี มาร์กซิยาล แนวรุกวัย 28 ปี ชาวฝรั่งเศส ที่ต้องกลายเป็นนักเตะไร้สังกัดในปัจจุบัน หลังเพิ่งแยกทางจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งที่เคยเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่ว่ากันว่ามีพรสวรรค์ที่สุดคนหนึ่งของโลก
อองโธนี มาร์กซิยาล เกิดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 1995 ที่เมือง มาสซี ประเทศฝรั่งเศสเขาเป็นนักเตะที่ เติบโตมากับระบบอะคาเดมี่ของ โอลิมปิก ลียง ยักษ์ใหญ่ในลีกเอิง โดยเริ่มเข้าสู่ทีม ในปี 2009 ก่อนจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยการก้าวขึ้นไปติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดยู 17 และมีสถิติทำประตูถล่มทลายถึง 32 ประตูในการลงสนาม 32 เกม
การลงสนามอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเขากับลียงคือเกมที่พบกับ อาเอล ไอรอนี่ ในศึกยูโรป้า ลีกรอบแบ่งกลุ่ม และลงเล่นในเกมลีกเกมแรกในแมตช์ที่พบกับ อฌักซิโอ ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ปี 2013 ด้วยการเปลี่ยนลงไปแทน ราชิด เกซซาล ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย
จากนั้น วันที่ 30 มิถุนายน 2013 โมนาโก ตัดสินใจคว้าตัว มาร์กซิยาล มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 5 ล้านยูโร พร้อมด้วยออปชั่นพิเศษอีก 1 ล้านยูโร พร้อมด้วยสัญญา 3 ปี
การลงสนามเกมแรกของเขากับ โมนาโก เกิดขึ้นเมื่อเขายังอายุแค่ 17 ปี โดยเขาถูกเปลี่ยนลงไปแทน ราดาเมล ฟัลเกา ในแมตช์ที่พบกับ นองต์
ส่วนประตูแรกที่เขาทำได้เกิดขึ้นในเกมกับแรนน์ ซึ่งถัดมาเพียง 6 วันเท่านั้น หลังจากนั้นเกมแรกที่ได้ลงสนาม ทำให้ โมนาโก ไม่รอช้าที่จะจับเขาเซ็นสัญญาฉบับใหม่ซึ่งมีระยะเวลาถึงปี 2018
ในปีแรกกับ โมนาโก มาร์กซิยาลยิงได้ 2 ประตูจากการลงเล่น 15 เกม และหลังจาก ราดาเมล ฟัลเกา ย้ายทีมออกไป มาร์กซิยาล ก็ก้าวเข้ามาเป็นกองหน้าตัวหลักของทีม โดยมีสถิติลงสนามให้โมนาโก รวม 70 นัด ยิงไป 15 ประตู ก่อนเวลาต่อมาถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดึงตัวไปร่วมทัพในช่วงวันสุดท้ายของซัมเมอร์ปี 2015
1 กันยายนปี 2015 มาร์กซิยาล ตกลงย้ายมาอยู่กับ ยูไนเต็ด ด้วยต่าตัว 36 ล้านปอนด์ และอาจเพิ่มมูลค่าไปถึง 58 ล้านปอนด์ ตามออปชั่นที่ทั้ง 2 สโมสรได้ตกลงกันไว้ ซึ่งในเกมแรกของ มาร์กซิยาล กับปีศาจเเดง เป็นเกมที่ ยูไนเต็ด ต้องเปิด โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล โดย เจ้าตัวได้ถูกเปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรองแทน ฮวน มาต้า ในนาทีที่ 65 และเขาไม่ปล่อยให้แฟนๆต้องรอนานด้วยการประเดิมประตูแรกของเขาในเกมเปิดตัวทันที ท้ายที่สุดเเล้วเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้ด้วยสกอร์ 3-1
จากการทำประตูดังกล่าวทำให้ มาร์กซิยาล กลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ และมีแต่คนพูดถึงประตูโซโล่เดียวประตูนั้น ซึ่งเท่านั้นยังไม่พอ มาร์กซิยาล กดอีก 2 ประตูในเกมที่ ยูไนเต็ด บุกไปชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ด้วยสกอร์ 3-2 นับจากนั้นอีกไม่ถึงสัปดาห์ มาร์กซิยาล ยังร้อนแรงไม่หยุดด้วยการยิงอีก 1 ประตูในเกมที่พบกับ อิปสวิช ทาวน์ ในศึกแคปปิตอล วัน คัพ ซึ่งในเกมดังกล่าว ยูไนเต็ด ก็เอาชนะไปได้ 3-0
พร้อมกันนี้ช่วงเวลาเดียวกัน มาร์กซิยาล ยังถูก ดิดิเยร์ เดส์ชอง กุนซือของทัพ “ตราไก่” เรียกติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ เป็นครั้งแรกในเกมอุ่นเครื่องที่พบกับ โปรตุเกส และ เซอร์เบีย แต่ทว่าเขาได้ลงสนามในนามทีมชาติชุดใหญ่เกมแรก ด้วยเปลี่ยนตัวลงมาแทนคาริม เบนเซม่า ในช่วง 16 นาทีสุดท้ายของเกม ในวันที่ 4 กันยายนที่ ฝรั่งเศส เอาชนะ โปรตุเกสไปได้ด้วยสกอร์ 1-0
มาร์กซิยาล กลายเป็นนักเตะแนวรุกที่ถูกจับตามอง โดยปีที่โชว์ฟอร์มได้สุดยอดที่สุดกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือฤดูกาล 2019/20 ได้ลงสนามไปทั้งหมด 32 นัดในลีก ยิงไป 17 ประตู และหากนับรวมทุกถ้วยทุกรายการที่ปีศาจแดงลงแข่งขัน มาร์กซิยาล ลงสนามไปทั้งหมด 48 นัด และประตูได้ 23 ประตู
แต่ในซีซั่นถัดมา ฟอร์มการเล่นของ มาร์กซิยาล ตกลงไปอย่างน่าใจหาย พร้อมๆกับฟอร์มของทีมที่ร่วงลงด้วย ในยุคของโอเล กุนนาร์ โซลชา กุนซือในซีซั่น 2020/21 โดย มาร์กซิยาล ลงสนามในลีกไป 22 นัด แต่กลับยิงประตูได้แค่ 4 ประตู
ฟอร์มการเล่นของเขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจนกระทั่งถูกแฟนบอลตัวเองโห่ใส่ จนทำให้เขาเอ่ยปากขอผู้จัดการทีมอย่าง ราล์ฟ รังนิก ย้ายทีม โดยมี เซบีญ่า ยื่นข้อเสนอขอยืมตัว มาร์กซิยาล ไปร่วมทัพด้วยสัญญายืมตัว 6 เดือน และไม่มีออปชั่นการซื้อขาดในฤดูกาล 2021/22
หลังจากกลับมายัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้ง มาร์กซิยาล ยังคงมีฟอร์มที่ย่ำแย่ ทั้งยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่สามารถช่วยทีมได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ก่อนที่ล่าสุดในฤดูกาล 2024/25 นี้ จะตกลงแยกทางกัน ซึ่ง มาร์กซิยาล ฝากสถิติไว้ที่การลงสนาม 317 นัด ยิงไป 90 ประตู รมทุกรายการ โดยร่วมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ 1 สมัย, คาราบาว คัพ 1 สมัย, คอมมูนิตี ชิลด์ 1 สมัย และยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 1 สมัย
ตอนนี้มีข่าวว่า เออีเค ในกรีซ กำลังให้ความสนใจในตัวเขาอยู่ ซึ่งเชื่อว่าคงมีแฟนบอลหลายคนที่กำลังเอาใจช่วยให้ มาร์กซิยาล กลับมามีร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์ และคืนสู่ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมโดยเร็ว ไม่ว่าจะไปเล่นกับทีมใดก็ตามจากนี้