ฝ่ายจัดการแข่งขันแกรนด์สแลมออสเตรเลียน โอเพ่น ออกกฎแบนธงชาติรัสเซีย และเบลารุสด้วยการหามนำเข้าสนามไม่ว่ากรณีใดๆ เนื่องจากก่อให้เกิดความขัดแย้ง
ก่อนหน้านี้เกิดประเด็นดราม่าขึ้นในศึกออสเตรเลียน โอเพ่น 2023 ประเภทหญิงเดี่ยวรอบแรกเมื่อมีการนำธงชาติรัสเซียไปแขวนอยู่ข้างสนามของแมตช์ประเภทหญิงเดี่ยวรอบแรกระหว่าง คาเทรีนา เบนเดิล นักหวดชาวยูเครนกับ คามิลลา ราคิโมวา นักหวดชาวรัสเซียซึ่งเรื่องดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับเอกอัครราชทูตยูเครนประจำออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เป็นอย่างมาก เนื่องจากรัสเซียซึ่งมีเบลารุสคอยช่วยเหลือได้ใช้กำลังทหารเข้ารุกรานยูเครนจนกลายเป็นสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย พร้อมเรียกร้องให้มีการแบนธงชาติของทั้ง 2 ประเทศ
โดยเอกอัครราชทูตยูเครนระบุในเรื่องนี้ว่า “ผมขอประณามการแสดงธงชาติรัสเซียต่อสาธารณะในระหว่างการแข่งขันของนักเทนนิสยูเครน คาเทรีนา เบนเดิล ที่ ออสเตรเลียน โอเพ่น ผมขอเรียกร้องให้ เทนนิส ออสเตรเลีย บังคับใช้นโยบาย “ธงเป็นกลาง” โดยทันที”
จนล่าสุด เทนนิส ออสเตรเลีย ฝ่ายจัดการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวได้ออกแถลงการณ์แบนธงชาติรัสเซีย และเบลารุส ทุกกรณีเป็นที่เรียบร้อยโดยระบุว่า “ธงจากรัสเซีย และเบลารุสถูกห้ามในการแข่งขัน ออสเตรเลียน โอเพ่น นโยบายแรกเริ่มของเราคือให้แฟนบอลนำเข้ามาได้แต่ห้ามใช้เพื่อสร้างความวุ่นวาย เมื่อวานนี้เรามีเหตุการณ์ที่มีการปักธงไว้ข้างสนาม การแบนมีผลทันที เราจะทำงานร่วมกับผู้เล่นและแฟน ๆ ของเราต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่าสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในการเพลิดเพลินกับเทนนิส”
สำหรับนักเทนนิสจากรัสเซีย และเบลารุส เช่น อังเดร รูเบลฟ มือ 5 ของรายการชาย, ดานิอิล เมดเวเดฟ มือ 7 ของรายการชาย, อารีนา ซาบาเลนกา มือ 5 ของรายการหญิง และเวโรนิกา คูเดอร์เมโตวา มือ 9 ของรายการหญิง สามารถลงแข่งขันใน ออสเตรเลียน โอเพ่น ได้ทว่าพวกเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้แข่งขันภายใต้ธงหรือชื่อประเทศของตนได้เนื่องจากถูกวิจารณ์ว่าเป็นต้นเหตุของการก่อสงคราม
โดยหากย้อนไปเมื่อปีที่แล้วแร็กเกตจากรัสเซีย และเบลารุส ต้องถูกแบนจากการแข่งขันแกรนด์สแลม 1 รายการ นั่นก็คือ วิมเบิลดัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวกลายเป็นที่วิจารณ์ไปทั่ววงการเทนนิสอาชีพ เนื่องจากมีฝ่ายที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย จนสุดท้ายฝ่ายจัดการแข่งขันโดน เอทีพี และดับเบิลยูทีเอ สั่งปรับเงินจากการห้ามนักกีฬาลงชิงชัยดังกล่าว