แม้จะกลายเป็นชื่อที่แฟนบอลท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ จดจำในฐานะโค้ชผู้พาทีมคว้าแชมป์ยุโรปรายการใหญ่ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 40 ปี แต่เส้นทางของ อังเก้ ปอสเตโคกลู กับสเปอร์ กลับจบลงด้วยความเจ็บปวด เมื่อเขาถูกปลดจากตำแหน่งทันทีหลังจบฤดูกาล 2024/25 เพียงไม่กี่วัน ทั้งที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ในค่ำคืนแห่งความทรงจำที่บิลเบา ประเทศสเปน
อังเก้ ปอสเตโคกลู เกิดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 1965 ที่เมืองเอเธนส์ ประเทศกรีซ ก่อนจะย้ายตามครอบครัวไปตั้งถิ่นฐานในประเทศออสเตรเลียตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เขาเริ่มต้นเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลกับเซาธ์เมลเบิร์น และใช้เวลาเกือบทั้งอาชีพค้าแข้งในบ้านเกิด ก่อนจะผันตัวมาเป็นโค้ชในปี 1996 ด้วยวัยเพียง 31 ปี โดยได้เริ่มต้นบทบาทผู้จัดการทีมกับสโมสรเดิมที่เขาเคยเล่น ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาคุมทีมชาติออสเตรเลียรุ่นเยาวชน และก้าวสู่ตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2013
ความสำเร็จของเขากับทีมชาติออสเตรเลียถือว่าไม่ธรรมดา โดยพาทีมคว้าแชมป์เอเชียน คัพ 2015 ได้อย่างยิ่งใหญ่ในฐานะเจ้าภาพ ก่อนจะลาออกหลังจบศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกโซนเอเชียในปี 2017 และเริ่มต้นเส้นทางใหม่ด้วยการรับงานคุมทีมโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ในเจลีก ญี่ปุ่น และพาทีมคว้าแชมป์เจลีก ในปี 2019 ซึ่งชุดนั้นมี “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน อยู่ในทีมด้วย
ชื่อของเขาถูกจับตามองมากขึ้นเมื่อก้าวเข้าสู่ฟุตบอลยุโรปจริงจังในปี 2021 ด้วยการรับงานคุมกลาสโกว์ เซลติก สโมสรยักษ์ใหญ่ของสกอตแลนด์ โดยใช้สไตล์การเล่นเกมบุกอันเร้าใจคว้าแชมป์พรีเมียร์ชิพ 2 สมัย รวมถึงถ้วยในประเทศอีกหลายรายการ ก่อนที่ในช่วงซัมเมอร์ปี 2023 ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ จะตัดสินใจมอบบทบาทผู้จัดการทีมให้กับเขา โดยหวังให้เป็นผู้มากู้ศรัทธาหลังยุคของอันโตนิโอ คอนเต้ และผลงานที่ไม่สม่ำเสมอภายใต้โค้ชชั่วคราวอย่างไรอัน เมสัน
ฤดูกาลแรกของปอสเตโคกลูกับไก่เดือยทองถือว่าทำได้ตามเป้า เขาพาทีมจบอันดับ 5 ในพรีเมียร์ลีก พร้อมคว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า ยูโรป้า ลีก และได้รับเสียงชื่นชมในสไตล์การเล่นที่เปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญ แต่มันคือฤดูกาลที่สองของเขาที่ทั้งโลกหันมาจับตาอย่างจริงจัง แม้ว่าผลงานในพรีเมียร์ลีกจะย่ำแย่จนจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 17 แต่ในเวทียุโรป เขากลับพาทีมทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศของยูโรป้า ลีก ก่อนจะเฉือนเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ในนัดชิงที่เมืองบิลเบา จากจังหวะที่ลูกยิงของเบรนแนน จอห์นสัน ไปแฉลบลุค ชอว์ เปลี่ยนทางเข้าประตูไป กลายเป็นประตูชัยพาสเปอร์คว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรกนับตั้งแต่ปี 1984 และเป็นถ้วยรายการใหญ่ใบแรกของสโมสรนับตั้งแต่ลีก คัพ ปี 2008
ความสำเร็จนี้ทำให้ปอสเตโคกลูกลายเป็นกุนซือชาวออสเตรเลียคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลสโมสรยุโรป และยังเป็นผู้จัดการทีมคนแรกจากชาติสมาชิก AFC ที่ประสบความสำเร็จในระดับนี้ แต่ถึงอย่างนั้น ความผิดหวังจากผลงานในลีกที่ย่ำแย่และกระแสวิจารณ์เรื่องแผนการเล่น รวมถึงความไม่ลงรอยกับฝ่ายบริหารในบางช่วงเวลา ทำให้บอร์ดบริหารของสเปอร์ ตัดสินใจปลดเขาจากตำแหน่ง
การปลดปอสเตโคกลูออกจากตำแหน่งทันทีหลังจากคว้าแชมป์ยุโรป ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากทั้งแฟนบอลและอดีตนักเตะชื่อดังอย่างอลัน เชียเรอร์ ที่มองว่าเป็น “การตัดสินใจที่ไร้เหตุผลและน่าอับอาย” ขณะที่ตัวของปอสเตโคกลูเองก็แสดงความรู้สึกในเชิงขอบคุณแฟนบอลผ่านแถลงการณ์ โดยกล่าวว่าเขาภูมิใจในสิ่งที่ได้ทำร่วมกับทีม และขออวยพรให้สโมสรประสบความสำเร็จในอนาคต
ณ เวลานี้ อนาคตของอังเก้ ปอสเตโคกลูยังไม่มีความชัดเจน แต่จากประสบการณ์ ความสามารถ และความสำเร็จที่เขาได้พิสูจน์ในทุกระดับ ไม่ว่าจะในเอเชีย สกอตแลนด์ หรือเวทียุโรป ก็ทำให้ชื่อของเขายังคงเป็นที่จับตามองในตลาดผู้จัดการทีมอย่างไม่ต้องสงสัย และอาจเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นที่เขาจะกลับมาอีกครั้งในระดับสูงสุดของฟุตบอลยุโรป