ประวัตินักกีฬา

อังเคล ดิ มาเรีย แข้งคนสำคัญผู้สร้างประวัติศาสตร์ให้ ทีมชาติอาร์เจนตินา

อังเคล ดิ มาเรีย

อังเคล ดิ มาเรีย แนวรุกชื่อดังระดับโลก หนึ่งในคีย์แมนสำคัญผู้พาอาร์เจนตินา คว้าแชมป์โลก 2022 และแชมป์โคปาอเมริกา 2 สมัย ได้ประกาศเลิกเล่นทีมชาติ และจัดพิธีอำลากันอย่างยิ่งใหญ่ไปแล้ว เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2024 ที่ผ่านมา 

อังเคล ฟาเบียน ดิ มาเรีย เกิดเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 1988 ที่เมืองโรซาริโอ ประเทศอาร์เจนตินา เขาเริ่มเล่นฟุตบอลบอลกับ โตริโต้ ทีมท้องถิ่นเล็กๆ ก่อนฝีเท้าจะไปโดดเด่นสะดุดตาแมวมองของสโมสร โรซาริโอ เซ็นทรัล และถูกเจรจาดึงตัวไปร่วมสังกัดตอน 7 ขวบด้วยข้อเสนอแลกเปลี่ยนเป็นลูกฟุตบอลแค่ 35 ลูก

 มิเกล คุณพ่อของ ดิ มาเรีย เป็นอดีตนักฟุตบอลอาชีพ และมีความฝันอยู่ที่การได้เล่นระดับอาชีพกับยักษ์ใหญ่อย่าง ริเวอร์เพลต แต่ฝันก็ต้องพังทลายเนื่องจากได้รับบาดเจ็บหัวเข่าอย่างหนักก่อนที่จะมีโอกาสได้ลงประเดิมสนาม และต้องหันเหไปทำงานที่เหมืองถ่านหินแลกกับเศษเงินเพียงเล็กน้อยแทน นั่นเป็นหนึ่งในแรงขับที่ทำให้ ดิ มาเรีย อยากจะเป็นนักฟุตบอล

 ดิ มาเรีย นั้นเติบโตขึ้นมาในครอบครัวยากจน เขาอยู่ในห้องแคบๆ ต้องแบ่งกันนอนกับพี่สาว น้องสาว แค่มีกินรอดไปวันๆ ก็ดีใจแล้ว แต่เจ้าตัวยืนยันว่าไม่เคยรู้สึกท้อแท้ในโชคชะตา เพราะยังมีคนรอบข้างที่เค้ารู้สึกว่าแย่กว่า

“พ่อแม่ของผมต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินมาซื้อสตั๊ดให้ผม นั่นเป็นสิ่งที่ผมจะไม่มีวันลืม พ่อและแม่ของผมทำงานที่เหมืองถ่านหิน วันไหนอากาศแย่ๆ จะโดนเหมืองถล่มใส่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ บางครั้งผมและพี่สาวกับน้องสาวก็ไปช่วยพวกท่าน มันเป็นงานที่หนักโคตรๆ ผมคิดอยู่เสมอว่าผมโชคดีเหลือเกินที่มีฟุตบอล การเรียนผมก็ไม่เอาไหน ถ้าไม่มีฟุตบอลป่านนี้ผมคงยังทำงานอยู่ในเหมืองนั่นแหละ เพราะผมไม่รู้จริงๆ ว่าจะไปทำอะไรที่อื่นได้อีก”

นอกจากคุณพ่อแล้ว ดิ มาเรีย มีไอดอลคือ คิลี่ กอนซาเลซ อดีตปีกซ้ายทีมชาติอาร์เจนตินา โดย ดิ มาเรีย หลงใหลในฝีเท้าของ คิลี่ ตั้งแต่เริ่มมาอยู่กับ โรซาริโอ ในปี 1995 และทั้งคู่ได้กลายมาเป็นเพื่อนร่วมทีมกันตอนที่ ดิ มาเรีย ถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ในอีก 10 ปีให้หลัง

อังเคล ดิ มาเรีย

เส้นทางการค้าแข้งของเขาหลังจากก้าวขึ้นมาสู่ชุดใหญ่ของ โรซาริโอ เซนทรัล ในปี 2007 ก็ถูก เบนฟิกา ยักษ์ใหญ่ในโปรตุเกส คว้าตัวไปร่วมทีม จากนั้น ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ร่วมคว้าแชมป์ มากมาย ทั้งแชมป์ ลีก และแชมป์บอลถ้วย 

จน ในฤดูกาล 2010/11 ถูก เรอัล มาดริด ดึงตัวไปเล่นในลาลีก้า สเปน ซึ่ง ดิ มาเรีย ก็ประสบความสำเร็จ อีกมากมาย เป็นแชมป์ลาลีก้า 1 สมัย, โคปา เดลเรย์ 2 สมัย ซูเปอร์โคปา 1 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 1 สมัย และยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย

 อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาล 2014/15 เขาย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก ฟอร์มการเล่นไม่ดี จนถูกปล่อยตัวไปให้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยักษ์ใหญ่ใน ลีกเอิง ฝรั่งเศส คว้าตัวร่วมทีมในฤดูกาลต่อมา 2015/16

 ดิ มา เรีย อยู่ค้าแข้งกับ เปเอสเช ยาวนาน และกลับมาประสบความสำเร็จอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แชมป์ ลีกเอิง 5 สมัย, คูเป เดอ ฟรองซ์ 5 สมัย, คูเป เดอ เลอ ลีก 5 สมัย, โทฟี เดอส์ แชมเปียนส์ อีก 5 สมัย  รวมแล้วลงสนามไป 295 นัด ยิงไป 92 ประตู

 ในฤดูกาล 2022/23 ดิ มาเรีย ย้ายไปเล่นกับ ยูเวนตุส และกลับไปยัง เบนฟิก้า อีกครั้งในฤดูกาล 2023/24 เป็นต้นมา

 ส่วนในนามทีมชาติ ดิ มาเรีย นั้นถือเป็นคนสำคัญรองจาก ลิโอเนล เมสซี ดาวเตะชื่อดังก้องโลก เพราะเขาคือขุนศึกคู่กาย ที่ช่วยให้ทีมชาติอาร์เจนตินา คว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก ยู-20, โอลิมปิกเกมส์ 2008, โคปา อเมริกา 2 สมัย ปี 2021, 2024 ซึ่งเขาเป็นผู้ยิงประตูชัย และสำคัญที่สุดเลยกับ แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ที่ดิ มาเรีย ก็ทำประตูได้ในนัดชิงชนะเลิศกับ ฝรั่งเศส ด้วย

 บัดนี้ ดิ มาเรีย ได้ประตูอำลาทีมชาติเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่เขาทำให้กับ อาร์เจนตินา นั้นจะยังคงตราตรึง และถูกจารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ต่อไปอีกนานแสนนาน

Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Most Popular

To Top