ถือเป็นหนึ่งในกองหลังที่บาร์เซโลนาเซ็นเข้ามาในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา สำหรับ อันเดรส คริสเตนเซน เซ็นเตอร์แบ๊กวัย 26 ปี ชาวเดนมาร์ก ซึ่งกลายมาเป็นความหวังในการทำให้เกมรับของทีมแข็งแกร่งขึ้่น
อันเดรส บอดต์เกอร์ คริสเตนเซน เกิดเมื่อวันที่ 10 เมษายน 1996 ที่เมือง ลิลเลอร์โรด ประเทศ เดนมาร์ก เขาคือลูกชายของ สเตน คริสเตนเซน อดีตผู้รักษาประตูของ บรอนด์บี ยอดทีมในลีกเดนมาร์ก
พรสวรรค์ทางด้านลูกหนังของเขาถูกค้นพบตอนอายุ 7 ขวบ โดยคุณพ่อซึ่งเผอิญไปเห็น คริสเตนเซน เลี้ยงบอล โดยที่ไม่มองไปที่เท้า แต่กลับมองไปข้างหน้าราวกับควบคุมมันได้ด้วยความรู้สึก ทำให้คุณพ่อพาเขาไปฝึกฝนที่ทีมเยาวชน บรอนด์บี 5-6 ครั้งต่อสัปดาห์ ระยะทางไปกลับ 90 กม. ซึ่งเป็นการขับรถที่ทรหดมาก
คริสเตนเซน เริ่มจากการเล่นเป็นกองหน้า ปีกขวา รวมถึงแบ๊กซ้าย และยังเล่นได้ในอีกหลายๆตำแหน่ง เพราะจุดเด่นของเขาคือการอ่านเกม และตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว
8 ปีในการฝึกฝนกับ บรอนด์บี ทำให้ คริสเตนเซน พัฒนาขึ้นมาเป็นนักเตะที่โดดเด่นอย่างมาก จนได้รับความสนใจจากสโมสรชั้นนำในยุโรป ทั้ง อาร์เซนอล, เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และบาเยิร์น มิวนิก ก่อนสุดท้าย เขาจะตัดสินใจเลือกย้ายไปอยู่กับ เชลซี ด้วยเหตุผลที่ว่า เชลซี เล่นฟุตบอลในแบบที่เขาชอบ
หลังจากอยู่กับ เชลซี ได้ 2 ปี เขาพาทีมเยาวชนคว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ และ ยูฟ่า ยูธ ลีก ก่อนจะถูกดันขึ้นมาเล่นกับชุดใหญ่ในปี 2014 โดยได้สัมผัสสนามในเกมฟุตบอลถ้วย 3 นัด ก่อนที่ในฤดูกาล 2015/16 และ 2016/17 จะถูกปล่อยให้กับ โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค ในบุนเดสลีก้า ยืมตัวไปใช้งาน และเขาก็ทำผลงานได้ดีทีเดียว
เมื่อกลับมายังเชลซี ในฤดูกาล 2017/18 คริสเตนเซน ลงเล่นเป็นแกนหลักของทีมอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับคว้าแชมป์กับเชลซี หลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 1 สมัย, ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 1 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 สมัย ก่อนที่ในฤดูกาลล่าสุด เขาจะตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับทีม และย้ายสู่ บาร์เซโลนา ในที่สุด
ส่วนในระดับทีมชาติ คริสเตนเซน ติดทีมเดนมาร์ก ชุดใหญ่ ในปี 2015 และกลายเป็นกำลังหลักในแดนหลังเรื่อยมา โดยลงสนามไปแล้ว 61 นัด ยิงไปได้ 3 ประตู
ปัจจุบัน คริสเตนเซน ยังมีอาการบาดเจ็บ รบกวนทำให้ไม่สามารถลงสนามช่วย บาร์เซโลนา ได้มากมายนัก แต่แฟนๆก็กำลังรอคอยเขากลับมา เพื่อช่วยให้เกมรับของทีมแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น
