คาร์ลอส อัลการาซ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมหลังไล่ถล่ม โนวัก ยอโควิช แบบขาดลอย 3-0 เซ็ตผงาดคว้าแชมป์ชายเดี่ยวแกรนด์สแลม วิมเบิลดัน เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน
ศึกเทนนิสแกรนด์สแลม รายการ “วิมเบิลดัน” ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในรอบชิงชนะเลิศ ประเภทชายเดี่ยว คาร์ลอส อัลการาซ มือ 3 ของโลกจากสเปน และแชมป์เก่าพบกับ โนวัก ยอโควิช มือ 2 ของโลกจากเซอร์เบีย และรองแชมป์เก่า
ผลปรากฏว่า อัลการาซ อาศัยร่างกายที่สดกว่าไล่ทุบ ยอโควิช ที่อาวุโสกว่าถึง 16 ปี แถมยังมีปัญหาบาดเจ็บหัวเข่า และเคลื่อนที่ได้ไม่ดีนักไปได้สบายใน 2 เซตแรก ก่อนที่ “โนเล” จะไว้ลายด้วยการเซฟ 3 แชมเปี้ยนชิพพอยต์ในเซตที่ 3 และยื้อไปได้ถึงช่วงไทเบรก ถึงกระนั้นก็ต้านความแรงแร็กเกตหนุ่มแดนกระทิงดุไม่ไหว อัลการาซ เอาชนะไปในที่สุดสกอร์รวม 3 เซตรวด 6-2, 6-2, 7-6 (7-4)
จากผลที่เกิดขึ้นทำให้ อัลการาซ ซึ่งคว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 2 กลายเป็นนักเตะเทนนิสคนที่ 2 ในยุคโอเพ่นที่คว้าชัยได้ 100 เปอร์เซ็นต์ในการเข้าชิงชนะเลิศแกรนด์สแลม 4 หนแรก ถัดจาก โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อดีตมือ 1 โลกจากสวิตเซอร์แลนด์ที่คว้าชัยทั้งหมดในการเข้าชิงดำ 7 ครั้งแรก ส่วน ยอโควิช ต้องอกหักในรอบชิงชนะเลศของรายการนี้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน
หลังคว้าแชมป์ อัลการาซ วัย 21 ปีให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกว่า “พูดตามตรง มันเป็นความฝันสำหรับผมที่จะคว้าแชมป์นี้ ผมเคยให้สัมภาษณ์ตอนอายุ 11 ปี และบอกว่าความฝันของผมคือการคว้าแชมป์วิมเบิลดัน ผมอยากให้มันดำเนินต่อไป มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมที่ได้เล่นบนสนามที่สวยงามแห่งนี้ และชูถ้วยรางวัลที่น่าทึ่งนี้ มันคือสนาม และถ้วยรางวัลที่สวยที่สุด”
“ยอโควิช เป็นนักสู้ที่น่าเหลือเชื่อ และผมรู้ว่าเขาจะมีโอกาสอีกครั้ง (ในช่วงท้ายของเซตสุดท้าย) และผมพยายามคว้าแต้มด้วยการเสิร์ฟ แต่ทำไม่ได้ มันยากสำหรับผม ผมพยายามสงบสติอารมณ์ และมองโลกในแง่ดี ในช่วงไทเบรก ผมพยายามเล่นเทนนิสให้ดีที่สุด ผมดีใจที่หาทางแก้ไขได้ ผมมีความสุขจริงๆ ที่ได้อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ และเล่นไทเบรกได้อย่างยอดเยี่ยม”