การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ทำการแข่งขันรวมทั้งหมด 26 แมตช์ (รอบแบ่งกลุ่ม 18 นัด, รอบก่อนรองชนะเลิศ 4 นัด, รอบรองชนะเลิศ 2 นัด และแมตช์ชิงเหรียญ 2 นัด) จัดขึ้นที่เซาท์ ปารีส อารีน่า ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฏาคม – 10 สิงหาคม 2567
ล่าสุดในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ อิตาลี อันดับ 1 ของโลก และ แชมป์เนชันส์ ลีก 2024 เข้าชิงเหรียญทองโอลิมปิกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พบกับ สหรัฐอเมริกา อันดับ 3 ของโลก ดีกรีแชมป์เก่า โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ผลปรากฏกว่า อิตาลี ยังฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่อง ช่วยกันไล่ตบเอาชนะ สหรัฐอเมริกา แชมป์เก่า ไปแบบสนุก 3-0 เซต 25-18, 25-20, 25-17 ทำให้ อิตาลี สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้เป็นสมัยแรกได้สำเร็จ ด้วยชัยชนะ 6 นัด และเสียเพียง 1 เซตเท่านั้น ส่วน สหรัฐอเมริกา ได้เหรียญเงิน
โดย เกมนี้ เปาล่า อีโกนู นักตบสาวตัวเก่งของอิตาลี ทำแต้มสูงสุดของแมตช์ 22 คะแนน ตามด้วย มิเรียม ซิลลา ทำได้ 10 แต้ม ขณะที่ จอร์แดน ธอมป์สัน ทำแต้มสูงสุดของสหรัฐฯ 8 คะแนน และ เอเวอรี่ สกินเนอร์ ทำได้ 7 แต้ม
ขณะที่เหรียญทองแดงตกเป็นของ วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติบราซิล ที่เอาชนะ ทีมชาติตุรกี 3-1 เซต 25-21, 27-25, 22-25, 25-15 ส่วน ตุรกี จบอันดับ 4 ของการแข่งขัน
ส่วนวอลเลย์บอล โอลิมปิกเกมส์ 2024 ประเภททีมชาย รอบชิงชนะเลิศที่จบไปก่อนหน้านี้ เป็นการพบกันระหว่าง ทีมชาติฝรั่งเศส เจ้าภาพซึ่งเป็นแชมป์เก่า พบกับ ทีมชาติโปเเลนด์ ซึ่งมีดีกรีแชมป์โลก 3 สมัย โดยสถิติที่ผ่านมา 10 เกมหลังสุดที่พบกัน ฝรั่งเศส เเละ โปแลนด์ ผลัดกันเก็บชัยชนะไปครองทีมละ 5 ครั้ง
แมตช์นี้ผลปรากฏว่า ฝรั่งเศส แชมป์เก่า เป็นฝ่ายโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนจะช่วยกันไล่ตบเอาชนะ ทีมชาติโปแลนด์ ไปแบบสบาย 3-0 เซต 25–19, 25–20, 25–23 โดยเกมนี้ ฝรั่งเศส ได้จาก ฌอง ปาทรี่ หัวเสาตัวเก่ง 17 คะเเนน ซึ่งมากที่สุดในสนาม ส่วนทาง โปเเลนด์ ได้จาก “กัปตันทีม” บาร์ตอซ คูเร็ก ทำไป 10 คะเเนน
จากผลที่เกิดขึ้นทำให้ห ฝรั่งเศส ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จเเละคว้าเเชมป์มาครองเป็นสมัยที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ส่วนทาง โปแลนด์ อกหักพลาดท่าในรอบชิงฯเป็นครั้งเเรก หลังจากที่เคยเข้าชิงมาเเล้ว 1 ครั้งเมื่อ 48 ปีที่เเล้ว เเละคว้าเเชมป์มาครองได้สำเร็จใน โอลิมปิกเกมส์ 1976 ที่ประเทศเเคนาดา