วอลเลย์บอล เวิลด์ (Volleyball World) และ สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ หรือ เอฟไอวีบี (FIVB) ประกาศให้ อินเดีย เป็นประเทศเจ้าภาพสำหรับ การแข่งขัน วอลเลย์บอลชายชิงแชมป์สโมสรโลก “เมน คลับ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ” (Men’s Club World Championships) เป็นเวลาสองปี โดยร่วมมือกับ รูเปย์ ไพรม์ วอลเลย์บอล ลีก (RuPay Prime Volleyball League) ซึ่งเป็นลีกวอลเลย์บอลอาชีพชั้นนำของอินเดีย ในฐานะประเทศเจ้าภาพ ซึ่งผู้ชนะของ RuPay Prime Volleyball League ในปี 2023 และ 2024 จะเป็นตัวแทนของอินเดียในการแข่งขัน ซึ่งพวกเขาจะเผชิญการแข่งขันที่ดุเดือดกับสโมสรวอลเลย์บอลที่มีชื่อเสียงจากประเทศชั้นนำทั่วทุกมุมโลก เช่น อิตาลี บราซิล อิหร่าน เป็นต้น
ทั้งนี้การแข่งขันจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-10 ธันวาคม 2023 ชิงเงินรางวัลกว่า 350,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ11ล้านบาท ส่วนเมืองเจ้าภาพจะมีการประกาศอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้
ทัวร์นาเมนต์ เมน คลับ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ จะนำสิ่งที่ดีที่สุดของวอลเลย์บอลระดับนานาชาติมาสู่อินเดีย ซึ่งกีฬานี้กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่เริ่มการแข่งขัน RuPay Prime Volleyball League ในปี 2022 ฤดูกาลที่ 1 ของลีก มีผู้ชมทางการถ่ายทอดสดสะสม 133 ล้านคนในอินเดีย ทั้งยังเข้าถึงแฟนๆ กว่า 84 ล้านคนบนแพลตฟอร์มดิจิทัล
สำหรับการเป็นเจ้าภาพ Men’s Club World Championships ครั้งนี้ของอินเดีย ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการจัดการแข่งขันตั้งแต่ปี ค.ศ. 1989
ดร. Ary S. Graça F° ประธาน FIVB กล่าวว่า “FIVB มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำสโมสรวอลเลย์บอลชายที่ดีที่สุดมาสู่อินเดียเป็นครั้งแรก! โดยมีสโมสรชั้นนำของโลกรวมถึงประเทศเจ้าภาพเข้าร่วม แฟน ๆ ในอินเดียและทั่วโลกสามารถมั่นใจได้กับการแข่งขันวอลเลย์บอลที่น่าตื่นเต้นและการแสดงของนักกีฬาที่น่าทึ่ง”
ด้าน Tuhin Mishra ผู้ร่วมสนับสนุนของ Prime Volleyball League เผยว่า “นักกีฬาที่ดีที่สุดจากทั่วโลกจะเดินทางมาที่อินเดียเพื่อแสดงความสามารถของพวกเขา และผู้เล่นอินเดียของเราจะมีโอกาสแข่งขันกับพวกเขา สิ่งนี้สอดคล้องกับพันธกิจของเราในการช่วยให้ทีมวอลเลย์บอลของอินเดียผ่านเข้ารอบในโอลิมปิกปี 2028”
สำหรับวอลเลย์บอลชายสโมสรชิงแชมป์โลก ทีม Trentino เป็นทีมที่คว้าแชมป์มากที่สุด 5 สมัย รองลงมาเป็น ซาดา ครูไซโร จากบราซิล ที่คว้าไป 4 สมัย ส่วนทีมจากเอเชีย ที่ทำผลงานได้ดีที่สุดคือ Al Rayyan จากกาตาร์ ที่ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ในปี 2014
