อิเม อูโดกา หัวหน้าผู้ฝึกสอน บอสตัน เซลติกส์ อาจตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งหลังถูกจับได้ว่าแอบคบหากับหนึ่งในพนักงานหญิงของทีม
ก่อนหน้านี้ “ดิ แอธเลติก” สื่อกีฬาชื่อดังรายงานว่า เซลติกส์ เตรียมลงโทษแบน อูโดกา เฮดโค้ชของทีมจากกรณีที่เขาทำผิดกฎในการแอบคบหากับเจ้าหน้าที่หญิงรายหนึ่งซึ่งไม่มีการเปิดเผยรายชื่อแต่อย่างใด
นอกจากนั้นแล้วยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากกฎของทีมที่ห้ามไม่ให้สมาชิกคบหากันเองแล้วนั้น อูโดกา ก็ยังมีภรรยาอยู่แล้ว นั่นก็คือ เนีย ลอง
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 22 กันยายน เซลติกส์ ออกแถลงการณ์ที่จะแบน อูโดกา ออกจากการเป็นโค้ชตลอดฤดูกาล 2022-23 เป็นที่เรียบร้อย และอาจมีการลงโทษเพิ่มหลังจากนี้ โดย โจ มาสซูรา ผู้ช่วยโค้ชจะขึ้นมาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฝู้ฝึกสอนแทน
ขณะที่ อูโดกา ได้โพสต์ข้อความขอโทษว่า “ผมขอโทษที่ทำให้ทีมตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ และผมยอมรับการตัดสินใจของทีม ด้วยความเคารพต่อทุกคนที่เกี่ยวข้อง ผมจะไม่แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม”
อย่างไรก็ตามล่าสุด คริส แมนนิกซ์ ผู้สื่อข่าวจาก แอสเอลดอทคอม เว็บไซต์กีฬาชื่อดัง รายงานว่า อูโดกา กำลังพิจารณาที่จะลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบในความผิดที่เกิดขึ้น
สำหรับ อูโดกา วัย 45 ปีเข้ามาทำงานกับ เซลติกส์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้เขาเคยทำงานกับหลายทีมดังไม่ว่าจะเป็น ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส, ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ ซิกเซอร์ส และบรู๊กลิน เน็ตส์ ในฐานะผู้ช่วยโค้ช
โดยในฤดูกาลแรกของเขาในฐานะเฮดโค้ชกับ เซลติกส์ เจ้าตัวได้เปลี่ยนแปลง เซลติกส์ ได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยการทำสถิติในซีซั่นปกติอยู่ที่ 28-7 ใน 35 เกม
หลังจากนั้นเขาก็พาทีมผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เอ็นบีเอ เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี พร้อมทำให้ อูโดกา ทำสถิติเป็นโค้ชคนที่ 5 ในรอบ 25 ปีที่ผ่านมาที่เข้าถึง เอ็นบีเอ ไฟนอลส์ ฤดูกาลแรกของเขาในฐานะหัวหน้าโค้ช และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ นิค เนิร์ส ทำได้ในปี 2019
นอกจากนั่น ตามการวิจัยของ “อีเอสพีเอ็น” อูโดกา ยังกลายเป็นโค้ชมือใหม่คนแรกที่ชนะในการตัดสินด้วยเกม “บีโอ 7” ได้หลายแมตช์ เช่น ชนะ บักส์ ในรอบรองชนะเลิศของสายตะวันออก และชนะ ไมอามี ฮีต ในรอบชิงชนะเลิศของสายตะวันออก ก่อนจะแพ้ โกลเดน สเตต วอร์ริเออร์ส ในรอบชิงชนะเลิศด้วยสกอร์ 4-2