รูเบน อโมริม กุนซือของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่า อาร์เซนอล เป็นฝ่ายที่ทำได้ดีกว่า ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุด แต่แสดงความมั่นใจว่าทีมจะทำได้ดีขึ้นหลังจากนี้
ทัพปีศาจแดง ออกไปเยือน อาร์เซนอล ก่อนพ่ายแพ้ไปด้วยสกอร์ 0-2 ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเกมล่าสุด โดยเจ้าบ้านได้ประตูจาก ยูเลียน ทิมเบอร์ และ วิลเลียม ซาลิบา
หลังเกมการแข่งขัน รูเบน อโมริม กุนซือของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่า อาร์เซนอล เป็นทีมที่เล่นได้เป็นระบบ นอกจากนี้ลูกเซ็ตพีซคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมของตนพ่ายแพ้
“ลูกเซตพีซ (ที่มาของประตู) มันคือสิ่งที่เปลี่ยนเกมไปอย่างสิ้นเชิง เราควรจะเล่นกันให้ดุดันกว่านี้ตอนเล่นอยู่ในกรอบเขตโทษของ อาร์เซนอล ก่อนหน้าที่จะมาเกิดประตูจากลูกเซตพีซน่ะทั้ง 2 ฝั่้งต่างก็ไม่มีโอกาสทำประตูกันมากนัก ลูกเซตพีซมันเป็นสิ่งที่ตัดสินเกมนี้”
“พวกเขาสามารถจับนักเตะหลายคนไปอยู่ใกล้กับผู้รักษาประตูได้ และมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะสู้แย่งบอลได้ แต่เราจำเป็นต้องป้องกันลูกเซตพีซของพวกเขาให้ได้ เรารู้ดีว่าเราจำเป็นต้องทำให้ดีกว่านี้”
“เราทุ่มเทกันอย่างเต็มที่แล้ว แต่เราก็แพ้ในจังหวะลูกเซตพีซ ถ้าเกิดตอนนั้น มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ ทำประตูได้แล้วล่ะก็ โมเมนตัมก็จะต่างออกไปเลย เราพยายามที่จะเล่นแล้ว แต่พวกเขาเป็นทีมที่มีระบบดีมากๆ และเจาะเข้าไปทำประตูได้ยาก ผมรู้สึกว่าลูกทีมของผมคุมเกมเอาไว้ได้แล้ว แต่ลูกเซตพีซมันเปลี่ยนเกมในช่วงครึ่งหลังไปอย่างสิ้นเชิง”
“วันนี้ผมได้เรียนรู้ว่าเราเล่นได้ฉลาดเมื่อเรามียุทธศาสตร์ที่ดี เราเจอวิธีในการบีบกดดันและการบล็อก พอผ่านไปสักพักแล้วเราจะเล่นได้ดีขึ้นแน่นอน เราต้องปรับปรุงกันในทุกๆ นาที เราจำเป็นต้องใช้ทุกนาทีไปกับการปรับปรุงจุดต่างๆ และสู้เพื่อนัดต่างๆ ให้ได้”
ขณะที่ มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ กองหลังชาวเนเธอร์แลนด์ ยอมรับว่าการเสียประตูทำให้ความมั่นใจของทีมหายไป ทำให้ไม่มีโอกาสในการสร้างสรรค์รูปเกม
“มันน่าผิดหวังเพราะเราจบลงด้วยการไม่ได้แต้มเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันน่าผิดหวังเพราะผมคิดว่าก่อนเสียประตูแรก มันเป็นเกมที่ค่อนข้างสูสีกันมาก”
“เราไม่ได้มีโอกาสมากนัก ขณะที่พวกเขาก็ไม่ได้มีโอกาสมากเช่นกัน เราต้องพยายามสร้างโอกาส แต่คุณคงเห็นแล้วว่าการเล่นลูกตั้งเตะสร้างความแตกต่างอย่างมากในเกมนี้ และประตูแรกก็ทำให้โมเมนตัมเปลี่ยนไป”
“ผมรู้สึกว่า ก่อนเสียประตูแรกนั้น แฟนบอลของพวกเขาเริ่มเงียบ และเราสามารถครองเกม ขณะที่พวกเขาเริ่มกลัวเสียประตู แต่หลังประตูแรก โมเมนตัมก็เปลี่ยนไป พวกเขามั่นใจมากขึ้น ส่วนเราก็เสียความมั่นใจไปบ้าง”