หลังจากที่ “พญาเหยี่ยว” แบร์รี่ ฮอว์กินส์ นักสอยคิวมือ 19 ของโลกจากอังกฤษ หักปากกาเซียนด้วยการเอาชนะ “เพชฌฆาตปืนกล” จัดด์ ทรัมป์ มือ 4 ของโลก และเต็งอันดับ 2 ของรายการ 9-6 เฟรม คว้าแชมป์ สนุกเกอร์ ยูโรเปี้ยน มาสเตอร์ส 2023 ที่เกียเมโทรโปล อารีน่า เมืองนูเรมเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมเงินรางวัล 80,000 ปอนด์ หรือประมาณ 3.5 ล้านบาท พร้อมกับได้รับคะแนนสะสมเพิ่มขึ้นอีก 80,000 คะแนน จนอันดับโลกของเขากลับเข้ามาอยู่ในท็อป 16 ของโลกอีกครั้ง โดยขึ้นมารั้งอันดับ 13 ของโลกเป็นที่เรียบร้อย
นอกจากนี้ยังจะทำให้ แบร์รี่ จอมคิววัย 44 ปี คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนมาสเตอร์สมาครองเป็นสมัยแรก นับเป็นแชมป์ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์แรงค์กิ้งรายการที่ 4 ของเจ้าตัวอีกด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นแชมป์แรกในรอบ 6 ปีของเขา หลังโทรฟี่ใบสุดท้ายต้องย้อนกลับไปในรายการเวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2017 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2017 เลยทีเดียว
ล่าสุด ฮอว์กินส์ ต้องเจอกับเหตุการณ์คาดไม่ถึงเมื่อไม่สามารถเดินทางจากเยอรมนีกลับบ้านตามปกติได้ เพราะมีปัญหาด้านการควบคุมจราจรภาคพื้นอากาศ
แชมป์ยูโรเปี้ยน มาสเตอร์ส 2023 ต้องเจอกับเรื่องหงุดหงิด เมื่อเขาต้องเดินทางจากเนิร์นแบร์กไปแฟรงค์เฟิร์ต เพื่อรับทราบว่าไม่มีเที่ยวบินกลับอังกฤษ นั่นคือจุดเริ่มต้นของ 48 ชั่วโมงที่หัวเราะไม่ออก
ฮอว์กินส์ เผยว่า “ผมไปถึงสนามบินแฟรงค์เฟิร์ตประมาณเที่ยงวัน แล้วต้องนั่งรอไปจนเย็นค่ำจึงรู้แน่นอนว่าเที่ยวบินโดนยกเลิกไปหมด ผมต้องนั่งรอเอาสัมภาระคืนจากที่โหลดไปอยู่นานสองนาน แบบที่ไม่มีการบอกกล่าวอะไร พอได้สัมภาระคืน กล่องใส่คิวของผมกลับไม่ออกมาด้วย”
“ผมไม่อยากไปไหนโดยไม่มีคิว เพราะผมนึกถึงลูก้า เบรเซล ที่เล่าว่าเขาพลัดจากคิวของเขาถึง 10 วัน ผมยังต้องลงแข่งรอบคัดเลือกอู่ฮั่น โอเพ่น ที่เลสเตอร์ ในวันอาทิตย์ ดังนั้นผมจึงรออยู่ที่สนามบินเพื่อรอกล่องคิว ในที่สุดก็ได้มันมาตอนดึกๆ ถือว่าโล่งใจไปอย่างหนึ่ง”
“จากนั้นก็ต้องวางแผนกลับบ้าน เมื่อไม่มีเที่ยวบิน รถไฟยูโรสตาร์ก็เต็มหมด ผมเลยต้องขึ้นรถไฟสองต่อ ไปที่บรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม แล้วเช่ารถขับต่อถึงคาเลส์ จุดที่จะข้ามกลับเกาะอังกฤษ ปัญหาใหม่เกิดขึ้นเพราะซื้อตั๋วเรือข้ามฟากไม่ทัน ต้องใช้แผนใหม่ ผมจ่ายเงินให้เพื่อนที่อังกฤษขับรถลอดอุโมงค์ข้ามฟากมารับผมกลับ จนถึงบ้านจนได้ตอนประมาณ 4 ทุ่ม ได้คุยกับครอบครัวแค่ครึ่งชั่วโมงก็ต้องเข้านอน”
“ภารกิจของผมยังไม่จบ รถของผมยังอยู่ที่สนามบินฮีธโรว์ เช้าวันรุ่งขึ้นเลยต้องตื่นเช้า ขึ้นรถไฟ และรถไฟใต้ดินไปฮีธโรว์เพื่อขับรถกลับ จึงได้มาทานข้าวกลางวันกับครอบครัว จากนั้นผมก็ได้ไปดื่มเบียร์ฉลองกับเพื่อนๆ 2 แก้วตอนค่ำ เป็นช่วงที่ดื่มด่ำกับความสำเร็จที่ได้มา”
“ผมได้พักผ่อนเต็มๆ ในวันพฤหัสบดี วันศุกร์เป็นวันฝึกซ้อม แล้วเดินทางไปแข่งรอบคัดเลือกอูฮั่น โอเพ่น ที่เลสเตอร์ ในวันอาทิตย์” ฮอว์กิ้นส์กล่าว
ฮอว์กินส์กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิตของเขา เพราะหลังจากแพ้ในนัดชิงชนะเลิศ 4 ครั้งติดต่อกัน ทำให้เขาเริ่มสงสัยตัวเองว่าจะกลับมาเป็นแชมป์ได้อีกครั้งหรือไม่ จนมาได้แชมป์ที่เยอรมนีดังกล่าว
“ในแต่ละรายการมีแชมป์เพียงคนเดียว ขณะที่อีก 127 คนต้องผิดหวัง ความเชื่อมั่นของแต่ละคนจะถูกบั่นทอนลงเรื่อยๆ ทุกครั้งที่แพ้ การก้าวขึ้นคว้าแชมป์ได้สักรายการถือเป็นเรื่องวิเศษสุด การได้รองแชมป์แม้จะแสดงว่าคุณเล่นดีแต่มันยังไม่พอ เพราะมีไม่กี่คนหรอกที่จะจดชื่อรองแชมป์ ดังนั้น คุณต้องชนะเลิศ” ฮอว์กินส์ วัย 44 ปี กล่าว
“ผมเองก็มีช่วงเวลาที่แย่ๆ อยู่นับไม่ถ้วน ผมต้องพยายามลืมมัน ฝึกซ้อมต่อแล้วกลับมาสู้ใหม่แล้วหวังว่าจะมีวันของผมบ้าง ซึ่งเวลานั้นก็คือสัปดาห์ที่ผ่านมา”
“คุณมักจะมีข้อสงสัยในตัวคุณเองว่าคุณดีพอหรือไม่ จะได้เข้าไปเล่นรอบลึกๆ ได้อีกหรือเปล่า ผมต้องพยายามทำใจร่มๆ เดี๋ยวนี้ผมไม่ได้ซ้อมหนักเหมือนสมัยหนุ่มๆ ไม่ได้ใช้หมกมุ่นอยู่กับการซ้อมแบบ 24/7แบบหลายๆ คน แต่พยายามซ้อมในสิ่งที่มีประโยชน์ ซึ่งตอนนี้มันได้ผล แน่นอนว่าผมยังมุ่งมั่นทุ่มเท เพียงแต่ไม่เสียเวลาให้กับเรื่องโง่ๆ อีก”
“สนุกเกอร์คืองานของผม นักสนุกเกอร์ทุกคนก็เป็นคนทำงานหาเลี้ยงชีพ แม้จะเป็นกีฬาที่กดดันหนักแต่ก็ถือว่าดีกว่าอาชีพอื่นอีกมาก ผมโชคดีแล้วที่สามารถใช้สนุกเกอร์เป็นเครื่องมือเลี้ยงชีพ ดังนั้น ผมก็จะสนุกกับงานไปเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้ผมก็กลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง”
“ในนัดชิงที่ผ่านมา ตอนที่จัดด์ไล่จี้เข้ามา ผมแอบคิดว่าคงพลาดแชมป์อีก แล้วก็ต้องคอยให้สัมภาษณ์หลังแมตช์ว่าทำดีแล้วแต่ยังไม่พอจะคว้าแชมป์ อะไรทำนองนั้น แต่ผมชนะได้ แล้วจะขออะไรดีกว่านี้อีก”
“คุณไม่รู้หรอกว่ารายการต่อๆ ไปในฤดูกาลนี้จะออกมารูปแบบไหน แต่ที่แน่ๆ นี่คือการเริ่มต้นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม” ฮอว์กินส์กล่าว
