ฮันส์-ดีเทอร์ ฟลิค หรือที่แฟนฟุตบอลรู้จักกันในชื่อ “ฮันซี ฟลิค” คือหนึ่งในกุนซือชาวเยอรมันที่ประสบความสำเร็จในยุคปัจจุบัน ด้วยสไตล์การทำทีมที่เน้นเกมรุกเพรสซิ่งสูง จังหวะเร็ว และการพัฒนาศักยภาพของผู้เล่นดาวรุ่ง ทำให้เขากลายเป็นโค้ชที่หลายสโมสรใหญ่ต้องการมาโดยตลอด โดยล่าสุดในการคุมทีมให้กับ บาร์เซโลนา ในซีซั่น 2024/25 เขาก็สร้างความสำเร็จด้วยการกวาดไป 3 แชมป์
ฮันซี ฟลิค เกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1965 ที่เมืองไฮเดลแบร์ก ประเทศเยอรมนี เขาเริ่มต้นชีวิตค้าแข้งกับสโมสรระดับล่างในเยอรมนีก่อนที่จะย้ายมาเล่นกับบาเยิร์น มิวนิคในช่วงปี 1985-1990 โดยลงสนามไปทั้งสิ้น 104 นัด และยิงได้ 5 ประตูในตำแหน่งมิดฟิลด์ คว้าแชมป์บุนเดสลีกา 4 สมัย ก่อนย้ายไปเล่นให้โคโลญจน์อีกช่วงสั้น ๆ และประกาศแขวนสตั๊ดด้วยวัยเพียง 28 ปี เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บเรื้อรัง อย่างไรก็ตามแม้เขาจะไม่ใช่นักเตะชื่อดังระดับโลก แต่เขาก็เป็นที่จดจำในเรื่องของความมุ่งมั่นและวินัยที่ยอดเยี่ยม จนกลายมาเป็นคุณสมบัติหลักในบทบาทผู้จัดการทีมในเวลาต่อมา
หลังเลิกเล่น เขาเริ่มต้นงานโค้ชกับสโมสรระดับล่างอย่างวิคตอเรีย บัมเมนทาล ก่อนจะก้าวสู่เวทีใหญ่ในฐานะผู้ช่วยของโจอาคิม เลิฟ ทีมชาติเยอรมนีในปี 2006 ซึ่งตลอดระยะเวลา 8 ปี ฟลิคมีบทบาทสำคัญเบื้องหลังความสำเร็จของทัพ “อินทรีเหล็ก” โดยเฉพาะในฟุตบอลโลก 2014 ที่เยอรมนีคว้าแชมป์โลกอย่างยิ่งใหญ่ในบราซิล หลังจากนั้นเขายังรับตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาของสมาคมฟุตบอลเยอรมัน (DFB) และอยู่ในระบบการพัฒนาทีมชาติจนถึงปี 2017
ชื่อของฟลิคกลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งเมื่อเขาเข้ารับตำแหน่งผู้ช่วยโค้ชของนิโก้ โควัช ที่บาเยิร์น มิวนิคในปี 2019 แต่เมื่อโควัชโดนปลดในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน ฟลิคถูกแต่งตั้งเป็นกุนซือชั่วคราว และเขาก็ใช้โอกาสนี้เปลี่ยนสถานะตัวเองเป็นโค้ชระดับโลกทันที ด้วยการพาบาเยิร์นคว้า 6 แชมป์ ในฤดูกาล 2019/20 ทั้งบุนเดสลีกา, เดเอฟเบโพคาล, ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก, ยูฟ่าซูเปอร์คัพ, เดเอฟแอล-ซูเปอร์คัพ และฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ จนได้รับรางวัลโค้ชแห่งปีของยูฟ่าและฟีฟ่าในปี 2020
แม้จะประสบความสำเร็จกับบาเยิร์นอย่างยิ่งใหญ่ แต่ฟลิคตัดสินใจลาออกหลังจบฤดูกาล 2020/21 เพื่อรับงานคุมทีมชาติเยอรมนีแทนที่โยอาคิม เลิฟ ในช่วงเปลี่ยนผ่านของทีม อย่างไรก็ตาม ผลงานในเวทีระดับชาติกับเยอรมนีกลับไม่เป็นไปตามคาด โดยเฉพาะในฟุตบอลโลก 2022 ที่ทีมตกรอบแรกอย่างน่าผิดหวัง และต่อมาในเดือนกันยายน 2023 เขาก็กลายเป็นกุนซือทีมชาติเยอรมันคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกปลดกลางทาง หลังเกมพ่ายญี่ปุ่น 1-4 ในแมตช์อุ่นเครื่อง
หลังจากพักงานไปเกือบสองปี ฟลิคกลับมาเป็นข่าวใหญ่อีกครั้งในช่วงเดือนเมษายน 2024 เมื่อมีรายงานว่าเขาได้รับการทาบทามจากบาร์เซโลนา สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกา สเปน ซึ่งต้องการโค้ชประสบการณ์สูงเข้ามาสานงานต่อจากชาบี เอร์นานเดซ ที่ตัดสินใจลงจากตำแหน่งหลังพาทีมจบฤดูกาล 2023/24 แบบไร้แชมป์ ก่อนที่ ฟลิค จะตัดสินใจย้ายมาสู่ บาร์เซโลนา ในฤดูกาล 2024/25
การมาคุมบาร์ซ่าในยุคที่สโมสรเผชิญวิกฤตทั้งด้านการเงินและผลงาน ถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญในชีวิตของฮันซี ฟลิค แต่ด้วยชื่อเสียงในการดึงศักยภาพผู้เล่นเยาวชน การจัดการทีมอย่างเป็นระบบ และประสบการณ์ในเวทีสูงสุดระดับโลก ทำให้แฟนบอลคาตาลันจำนวนมากตั้งความหวังว่าเขาจะสามารถนำพาบาร์เซโลนากลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่ในเวทียุโรปอีกครั้ง
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของฤดูกาลประวัติศาสตร์ เพราะภายในฤดูกาล 2024/25 เพียงฤดูกาลเดียว ฟลิค พาบาร์เซโลนา คว้าแชมป์ถึง 3 รายการใหญ่ ได้แก่ ซูเปร์โกปา เด เอสปัญญา, โกปา เดลเรย์ และปิดท้ายด้วยการคว้าแชมป์ลาลีกา สเปน อย่างยิ่งใหญ่
ปัจจุบัน ฮันซี่ ฟลิค วัย 60 ปี กำลังเขียนหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับตัวเอง และอาจเป็นยุคทองบทใหม่ที่ บาร์เซโลนา รอคอย