ข่าวเทนนิสออนไลน์

ฮาเลป โดนโทษแบนยาว 4 ปี – หลังไม่ผ่านตรวจสารกระตุ้น

ฮาเลป โดนโทษแบนยาว 4 ปี

ซิโมนา ฮาเลป อดีตนักเทนนิสหญิงมือ 1 ของโลกจากโรมาเนีย และเจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 2 รายการโดนแบนห้ามแข่งขันเทนนิสเป็นเวลา 4 ปี หลังถูกตรวจพบการใช้สารกระตุ้น

     สำนักงานตรวจสอบขององค์กรเทนนิสนานาชาติ (ไอทีไอเอ) ระบุว่า ฮาเลป วัย 31 ปี มีการใช้สารกระตุ้นประเภท โรซาดูสเตต ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งการสุ่มตรวจตัวอย่างถูกตรวจในการแข่งขันเทนนิส ยูเอส โอเพ่น ปี 2022 และตัวอย่างเอ และบี ยืนยันผลการใช้สารกระตุ้น เป็นผลทำให้เธอจะถูกแบนจากวงการเทนนิสเป็นเวลา 4 ปี หรือถึง ต.ค. 2026 ซึ่งเป็นโทษสูงสุด 

    อย่างไรก็ตาม ฮาเลป ที่โดนแบนชั่วคราวมาตั้งแต่เดือนต.ค.ปี 2022 ระบุว่า “เธอไม่มีเจตนาที่จะใช้สารกระตุ้น และยื่นอุทธรณ์โทษต่อศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (ซีเอเอส) อย่างแน่นอน “ปีที่แล้วเป็นแมตช์ที่ยากที่สุดในชีวิตของฉัน และน่าเสียดายที่การต่อสู้ของฉันยังดำเนินต่อไป ฉันอุทิศชีวิตให้กับเกมเทนนิสที่สวยงาม ฉันยึดถือกฎเกณฑ์ที่ควบคุมกีฬาของเราอย่างจริงจัง และภาคภูมิใจในความจริงที่ว่า ฉันไม่เคยใช้สารต้องห้ามใดๆ ทั้งโดยเจตนาหรือโดยเจตนา ฉันปฏิเสธที่จะยอมรับการตัดสินใจของพวกเขาที่ทำให้ฉันโดนแบน 4 ปี”

ฮาเลป โดนโทษแบนยาว 4 ปี

    “ฉันได้รับการตรวจเกือบทุกสัปดาห์หลังจากผลตรวจเป็นบวกครั้งแรกจนถึงต้นปี 2023 ซึ่งผลตรวจกลับมาเป็นลบทั้งหมด ฉันเชื่อในกีฬาที่ใสสะอาด และตลอดเกือบสองทศวรรษในฐานะนักเทนนิสมืออาชีพ ในการแข่งขันหลายร้อยรายการ และแชมป์แกรนด์สแลมสองรายการ ฉันได้ทำการตรวจเลือด และปัสสาวะ 200 ครั้งเพื่อตรวจหาสารต้องห้ามซึ่งทั้งหมดนี้ผ่านการตรวจสอบแล้ว”

    ด้านสมาคมนักเทนนิสมืออาชีพ ออกโรงจวก สำนักงานตรวจสอบขององค์กรเทนนิสนานาชาติ ว่าการแบน ฮาเลป ดังกล่าวเป็นความล่าช้าที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก และไม่สามารถอธิบายได้ พร้อมเป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรมและยอมรับไม่ได้ โดยทางองค์กรยืนยันว่าจะสนับสนุนผู้เล่นรายนี้อย่างเต็มที่สำหรับการอทุธรณ์โทษแบนใดๆ ที่จะเกิดขึ้น

     ทั้งนี้ ฮาเลป ถือเป็นหนึ่งในนักเทนนิสหญิงที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งของวงการเพราะนอกจากจะซิวแชมป์แกรนด์สแลม 2 รายการ และเคยขึ้นไปครองมือ 1 โลกเมื่อปี 2017 และ2018 แล้ว เธอยังคว้าโทรฟีทัวร์นาเมนต์ดับเบิลยูทีเอรวม 24 รายการ พร้อมรับเงินรางวัลรวม 32.2 ล้านปอนด์ (ราว 1.43 พันล้านบาท)

Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Most Popular

To Top