สตีเฟ่น เคอร์รี ผู้เล่นซูเปอร์สตาร์ของ โกลเดน สเตต วอร์ริเออร์ส ออกมายอมรับว่า ทีมของเขาต้องปรับปรุงฟอร์มการเล่นในรังเหย้าของตัวเอง พร้อมชี้คงไปไม่ถึงไหนหากอยากแก้ปัญหาจุดนี้ไม่ได้
โดย วอร์ริเออร์ส ทำผลงานเวลาเล่นในสนาม เชส เซ็นเตอร์ รังเหย้าของตัวเองได้ไม่ดีนักในฤดูกาลนี้ ด้วยสถิติชนะ 17 เกม และแพ้ถึง 18 เกม
และล่าสุด “สะพานทอง” ก็พ่ายต่อ นิวบอร์ก นิกส์ คาถิ่น 112-119 คะแนน ทำให้ปัจจุบันพวกเขาอยู่อันดับ 10 ของตารางสายตะวันตกด้วยสถิติชนะ 35 เกม และแพ้ 32 เกม ยังต้องลุ้นหนักในการคว้าโควต้าไปเล่นในรอบเพลย์ออฟ กระทั่งรอบเพลย์อินหรือไม่
ล่าสุด เคอร์รี ได้ให้สัมภาษณ์กระตุ้นทีมว่าควรทำผลงานสำหรับเกมในบ้านให้ดีกว่านี้ พร้อมชี้ว่าแฟรนไชส์คงจะไปไหนได้ไม่ไกลหากยังแก้ปัญหาตรงนี้ไม่ได้ “การชนะต่ำกว่า 50% ในบ้าน มันไม่ใช่สิ่งที่เป็นปกติของเราเลย เพราะเราทำมันได้ดีตลอดในหลายๆ ซีซั่นที่ผ่านมา ดังนั้นนี่มันก็เป็นความท้าทายที่มาหาตัวเรา ไปจนถึงช่วงปลายฤดูกาลที่เหลือนี้”
“ตอนนี้เราต้องเข้าใจ และพยายามสร้างโอกาสที่ดีที่สุดหรืออย่างน้อยก็แค่การได้เปรียบในการเล่นในบ้านบ้างในเพลย์อิน หรือถ้าได้เข้าไปเจอเป็นซีรีส์ (ในรอบเพลย์ออฟ) มันก็ยิ่งสำคัญกับการต้องเก็บเกมในบ้านให้ได้ เมื่อสัปดาห์หรือ 2 สัปดาห์ก่อน ผมเริ่มจะเลิกคิดเรื่องว่าทีมเราอยู่ตรงไหน (อันดับ) ไปแล้ว ผมคิดแต่เรื่องความสม่ำเสมอของทีมและทีมเราเล่นได้ดีแค่ไหน? ซึ่งนั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด”
“เอาจริงๆ ใครมันจะไปสนอันดับทีมวางหละ? ในเมื่อเราเล่นได้แย่แบบคืนนี้ ตอนนี้จะอันดับ 6, 7, 8 หรือ 9, 10 อะไรก็ตามแต่ มันก็ไม่สำคัญเลย เพราะคุณคงไปไม่ถึงไหนแน่นอน (ถ้าเล่นได้แบบเกมนี้) เพราะแบบนั้น นี่แหละคือมุมมองและโฟกัสของเราตอนนี้ ซึ่งอันดับในตารางมันจะเป็นแบบไหน มันก็ไม่สำคัญแล้ว”
ทั้งนี้ วอร์ริเออร์ส คว้าแชมป์เอ็นบีเอสมัยล่าสุดเมื่อปี 2022 ทว่าพวกเขาผลงานตกลงมาอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ซีซั่นที่แล้วเนื่องจากตกรอบเพลย์ออฟของสายตะวันตกด้วยการแพ้ แอลเอ เลเกอร์ส 2-4 เกม