สตีเฟน เคอร์รี ผู้เล่นซูเปอร์สตาร์ โกลเดน สเตต วอร์ริเออร์ส เปรยว่า เขาอยากจะเป็นเจ้าของทีมเอ็นบีเอสักแฟรนไชส์หลังจากการรีไทร์ในการเล่นอาชีพตามรอยตำนานชื่อดังอย่าง ไมเคิล จอร์แดน
โดย เคอร์รี ที่ปัจจุบันมีอายุ 37 ปีแล้วยังไม่มีสัญญาณใดๆ เรื่องการเลิกเล่นบาสเกตบอลอาชีพเนื่องจากเขายังรักษาผลงานของตัวเองได้ในระดับสูง รวมถึงการที่เขาเปรยว่า มีเป้าหมายจะคว้าแชมป์เอ็นบีเอให้ได้อย่างน้อยอีกสักครั้ง
ถึงกระนั้น เคอร์รี ก็มีธุรกิจของตัวเองควบคู่ไปกับการเล่นบาสเกตบอลอาชีพเช่น รองเท้าผ้าใบ และเสื้อผ้าภายใต้แบรนด์ “เคอร์รีแบรนด์”, ผลิตภัณฑ์เบอร์เบิน รวมถึงมีหุ้นในแบรนด์กีฬาดังอย่าง อันเดอร์ อาร์เมอร์ เป็นต้น
ล่าสุดผู้เล่นดีกรีแชมป์เอ็นบีเอ 4 สมัยให้สัมภาษณ์ถึงเป้าหมายในอนาคตหลังจากรีไทร์ว่าต้องการเป็นเจ้าของแฟรยไชส์ทีมเอ็นบีเอเหมือนกัน ไมเคิล จอร์แดน ตำนานนัดห่วง ชิคาโก บูลส์ ซึ่งเคยเป็นเจ้าของทีม ชาร์ล็อต ฮอร์เน็ตส์ ก่อนประกาศขายเมื่อปี 2023 และเหลือเพียงหุ้นส่วนน้อย
“เขา (จอร์แดน) น่าจะเป็นเพียงคนเดียวในชั่วชีวิตเราที่ได้เป็นทั้งสุดยอดผู้เล่นและยังสามารถสวมหัวโขนเจ้าของทีมได้ แนวคิดตอนนี้คือร่วมเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ และโอกาสที่เหมาะสมแก่ตนเองในการสร้างอิทธิพลต่อแฟรนไชส์นั้นๆในการบริหารให้ตามวิถีแห่งผู้ชนะแบบที่ได้สัมผัสกับ วอร์ริเออร์ส”
“มันคือเรื่องที่ผมตื่นเต้นในการมีเอี่ยว น่าสนใจเลย ทั้งนี้ตราบที่คุณยังเป็นผู้เล่นโลดแล่นอยู่ ไม่สามารถไปมีส่วนร่วมระดับดังกล่าวได้จนกว่าแขวนห่วงแล้ว ดังนั้นรอดูผมไปนั่งเป็นเจ้าของทีมร่วมที่ใดสักแห่งบนถนนสายนี้”
สำหรับ เคอร์รี ที่เพิ่งจบซีซั่น 16 ของตัวเองในเอ็นบีเอคือนักกีฬาที่มีรายได้มากสุดลำดับสองของทุกชนิดบนโลกเมื่อปีก่อนด้วยเม็ดเงินราว 153.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯแต่เจ้าตัวทราบว่าการจะเป็นหุ้นส่วนย่อยของแฟรนไชส์เอ็นบีเอต้องใช้งานมากกว่านั้นอีกหลายเท่า
ทั้งนี้นอกจาก เคอร์รี แล้ว เลอบรอน เจมส์ ยัดห่วงชื่อดัง แอลเอ เลเกอร์ส คืออีกคนที่แสดงท่าทีชัดเจนว่า ต้องการเป็นเจ้าของทีมเอ็นบีเอหากลีกมีการขยายแฟรนไชส์โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ลาส เวกัส ซึ่งยังไม่มีทีมเอ็นบีเอแต่เรื่องดังกล่าวก็ยังไม่มีความชัดเจน