ประวัตินักกีฬา

เคเฟรน ตูราม ดาวรุ่งอนาคตไกล อีกหนึ่งทายาทตำนานทีมชาติฝรั่งเศส

เคเฟรน ตูราม

เคเฟรน ตูราม ถือเป็นอีกหนึ่งแข้งอนาคตไกลที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะตอนนี้ที่ทุกสื่อตีข่าวกันอย่างหนักว่าเขากำลังได้ย้ายไปร่วมทัพ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล

 เคเฟรน ตูราม เกิดเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2001 ที่เมืองเรจิโอ เอมิเลีย ประเทศอิตาลี เขาคือลูกชายคนเล็กของ ลิลิยง ตูราม ตำนานกองหลังทีมชาติฝรั่งเศส ขณะที่พี่ชายของเขาก็คือ มาร์คุส ตูราม อีกหนึ่งศูนย์หน้าเนื้อหอมที่กำลังค้าแข้งกับ โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค

 สมัยยังเด็กนั้น เคเฟรน ตูราม อาศัยอยู่ในอิตาลีอยู่พักหนึ่ง เนื่องจากคุณพ่อของเขายังค้าแข้งกับปาร์มา แต่หลังจากคุณพ่อเขาเลิกเล่น ก็ย้ายกลับมาที่ฝรั่งเศสบ้านเกิด

 เคเฟรน ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ ร่วมกับ มาร์คุส พี่ชายว่าต้องการจะดำเนินรอยตามคุณพ่อในเส้นทางฟุตบอลอาชีพ ทำให้เมื่อเขาอายุได้ 6 ขวบ ตูราม คนพ่อก็พาเขาไปลงทะเบียนฝึกฝนกับ Olympique de Neuilly ร่วมกับพี่ชายที่มาฝึกฝนที่นี่อยู่ก่อนแล้ว

เคเฟรน ตูราม

 หลังจากนั้น 6 ปี หลังจาก ที่มาร์คุส ตูราม พี่ชายของเขาย้ายออกจาก Boulogne-Billancourt ไปตามเส้นทางอาชีพ เคเฟรน ก็ย้ายเข้ามาอยู่กับ Boulogne-Billancourt ทันที ทดแทนการเสียตัวพี่ชายไป ซึ่งเขาก็โดดเด่น และได้รับคำชมไม่แพ้พี่ชายของเขาในเรื่องของฝีเท้า กระทั่งปี 2016 เป็น โมนาโก ที่เห็นแวว และดึงตัวเขาไปขัดเกลาฝีเท้าต่อ

 เคเฟรน ตูราม ถูกดันขึ้นสู่ โมนาโก ทีมสำรอง ตอนอายุ 17 ปี เขาลงสนามให้ทีมไป 14 นัด ยิง 1 ประตู พร้อมกับโอกาสได้เปิดตัวในทีมชุดใหญ่ด้วย 3 นัดในฤดูกาล 2018/19 แต่เท่านั้นยังไม่เพียงพอสำหรับโอกาสที่เขาได้รับ ทำให้ในฤดูกาล 2019/20 เขาตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ นีซ เรื่อยมา จนก้าวขึ้นมากลายเป็นกำลังหลักสำคัญของทีมจนปัจจุบัน

 ในส่วนของทีมชาติ เคเฟรน ตูราม ติดทีมยู-16 ยู-17 ยู-18 ยู-19 ยู-21 มาแล้ว พร้อมกับถูกเรียกติดทีมชาติฝรั่งเศส ชุดใหญ่ 1 นัด เรียกได้ว่าอนาคตสดใสทีเดียว แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังมีความฝันอื่นที่ต้องการให้เป็นจริงๆ

“มันเป็นความฝันในวัยเด็กที่ต้องการได้รับเลือกร่วมกับพี่ชายของผม” 

 “เราเล่นในสวนด้วยกัน เราเล่นในสโมสรเดียวกันตอนเด็ก แต่ไม่เคยอยู่ในทีมเดียวกัน ผมหวังว่ามันจะเป็นไปได้ มันจะเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม”

 โอกาสที่ทั้งสองพี่น้องจะโคจรมาอยู่ในสโมสรเดียวกันอาจจะยาก แต่กับทีมชาติฝรั่้งเศส นั้นสูงทีเดียว เพราะทั้งคู่ถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว และหาก เคเฟรน ได้ย้ายไปสู่ทีมที่ใหญ่ขึ้น ก็จะทำให้โอกาสของเขามีมากขึ้นไปอีก เหลือเพียงรอวันที่จะได้เล่นร่วมกันเท่านั้น

Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Most Popular

To Top