ประวัตินักกีฬา

เจอร์เกน คล็อป ยอดกุนซือระดับพระกาฬ ผู้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับ ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล

เจอร์เกน คล็อป

กลายเป็นข่าวช็อกแฟนบอล “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ไปตามๆกันหลัง เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือคนเก่งของทีม ประกาศจะอำลาสโมสรหลังสิ้นสุนฤดูกาล 2023/24 

 เจอร์เกน คล็อปป์ เกิดเเมื่อวันที่ 16 มิถุายน 1967 ที่เมืองสตุตการ์ต ประเทศเยอรมนี โดยในสมัยที่เขาเป็นนักฟุตบอล คล็อปป์ เคยเล่นให้กับ ไมนซ์ 05 เพียงทีมเดียวเท่านั้น โดยเริ่มค้าแข้ง ตั้งแต่ปี 1990-2001 ก่อนจะตัดสินใจแขวนสตั๊ดในวัย 34 ปี พร้อมสถิติการยิงประตู 52 ลูก จากการลงสนาม 337 นัด

 คล็อปป์ เริ่มเข้าสู่เส้นทางการเป็นกุนซือ ด้วยการคุม ไมนซ์ 05 สโมสรที่เค้าค้าแข้งมาตลอดทั้งชีวิต ในปี 2001 ซึ่งในช่วงปีแรกของการคุมทัพ เขาเข้ามาวางรากฐานการเล่นใหม่ให้กับทีม เพื่อเป้าหมายในการเลื่อนชั้นจาก ลีกา 2 เยอรมนี ขึ้นไปเล่นใน บุนเดสลีกา ให้ได้

 และเพียง 3 ปี เท่านั้น เขาก็พา ไมนซ์ 05 จบอันดับ 3 เลื่อนชั้นไปสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จ ในรอบ 41 ปี ของสโมสร จากนั้นก็ยังพาทีมโลดแล่นอยู่ในลีกสูงสุดถึง 7 ปี โดยผลงานที่ดีที่สุดคือการพาทีมผ่านเข้าสู่รอบคัดเลือก ยูฟ่าคัพ ฤดูกาล 2005-2006 ก่อนที่ทีมจะร่วงตกชั้นอีกครั้ง ทว่า เจ้าตัวก็ยังเลือกที่จะอยู่กับทีมต่อไป แม้ว่าในซีซั่นต่อมาเขาจะไม่สามารถพาทีมกลับขึ้นมาในลีกสูงสุดได้อีกก็ตาม

เจอร์เกน คล็อป

 ปี 2008 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้ติดต่อทาบทามให้เขาเข้ามารับหน้าที่กุนซือคนใหม่ของทีม ซึ่ง คล็อปป์ ก็ตัดสินใจรับข้อเสนอทันที ก่อนจะเข้ามาวางระบบตามสไตล์และสามารถพาทีมจบอันดับ 6 ของตาราง

 จนมาถึง ฤดูกาล 2010/2011 เป็นปีที่ทุกอย่างลงตัว ทุกสิ่งที่ คล็อปป์ หว่านเมล็ดเอาไว้เหมือนสุกงอมเต็มที่ ทำให้เขาพาทีมเอาชนะทั้ง บาเยิร์น มิวนิค และ เลเวอร์คูเซ่น ผงาดคว้าแชมป์บุนเดสลีกา ได้อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกับสร้างชื่อให้กับตัวเองในทันที

 คว้าแชมป์ว่ายากแล้ว ป้องกันแชมป์ยิ่งยากกว่า แต่ คล็อป ทำได้ โดยในฤดูกาล 2011/2012 เขาพา ดอร์ตมุนด์ กวาดชัยชนะเป็นว่าเล่น โกยไป 81 แต้ม ป้องกันแชมป์ลีกได้สำเร็จ เท่านั้นยังไม่พอ ยังคว้าแชปม์บอลถ้วย เดเอฟเบ โพคาล ด้วยการถล่ม บาเยิร์น มิวนิค ไปถึง 5-2 เป็นดับเบิลแชมป์ในฤดูกาลนี้ อีกด้วย

 หลังจากนั้นในฤดูกาล 2012/13 เป็นอีกฤดูกาลที่ ดอร์ตมุนด์ ยังคงมีฟอร์มที่ดี ผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก แต่สุดท้ายก็ไปพ่ายให้กับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง บาเยิร์น มิวนิค 1-2 พร้อมกับเสียแชมป์ลีกให้ บาเยิร์น ในปปีเดียวกันอีกด้วย 

 ผลงานของ คล็อปป์ ค่อยๆตกลง กระทั่งในปี 2015 คล็อปป์ ด้ออกมาประกาศว่า จะขอแยกทางกับทีมหลังจบฤดูกาลนี้ เพื่อแสดงความรับผิดชอบกับผลงานของทีมที่ย่ำแย่อย่างหนัก ก่อนที่เขาจะพาทีมจบอันดับ 7 ของตาราง และอำลาทีมอย่างเป็นทางการ

 แน่นอนว่าหลังจากที่ คล็อปป์ ว่างงาน ก็มีสโมสรยักษ์ใหญ่มากมาย ต้องการตัวเขาไปร่วมทีม กระทั่งเป็น ลิเวอร์พูล ที่ประสบความสำเร็จในการได้กุนซือระดับมันสมองคนนี้ไปร่วมทีม พร้อมกับเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานบทใหม่ ที่ คล็อปป์ ได้สร้างไว้ให้ ลิเวอร์พูล 

 ฤดูกาล 2017-2018 เป็นฤดูกาลที่ คล็อปป์ เริ่มพาลิเวอร์พูล เข้าใกล้ความสำเร็จ เมื่อพาทีมทะลุเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ก็ไปพ่ายให้กับ เรอัล มาดริด 1-3 ได้แค่รองแชมป์เท่านั้น ส่วนในพรีเมียร์ลีก ก็จบอันดับที่ 4 แต่ต่อมาในฤดูกาล 2018/19 คล็อปป์ กลับมาแก้ตัว และลบฝันร้ายของตัวเองในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ เมื่อ ทุบเอาชนะ สเปอร์ส คู่แข่งร่วมลีก ไป 2-0 คว้าแชมป์ไปครอง แม้สุดท้ายแล้วจะต้องผิดหวังกับถ้วยพรีเมียร์ ลีก ซึ่งแฟนบอลรอคอยมานาน ด้วยการถูก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปาดหน้าคว้าแชมป์ไปด้วยคะแนนห่างกันเพียง 1 แต้ม เท่านั้น 

 อย่างไรก็ตามจนแล้วจนรอด ความพยายามทุกอย่างก็ประสบความสำเร็จเอาในฤดูกาล 2019/2020 เมื่อ คล็อปป์ พา ลิเวอร์พูล ระเบิดฟอร์มโหดตั้งแต่เริ่มฤดูกาล จนโกยแต้มแบบขาดลอย ผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี และคล็อปป์ ก็ถูกจารึกชื่อ กลายเป็นผู้จัดการทีมคนแรกของสโมสร ที่พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ อย่างยิ่งใหญ่ 

 แม้หลังจากนั้น คล็อปป์ จะไม่สามารถพาทีมไปสัมผัสถ้วยใหญ่ได้อีก แต่ก็ยังคงมีแชมป์ติดมือคือ เอฟเอ คัพ 2021/22, ลีก คัพ 2021/22 และคอมมูนิตี ชิลด์ 2022 เป็นผู้จัดการทีมที่แฟนบอล และสโมสรเชื่อใจอย่างถึงที่สุด

 แน่นอนว่าการประกาศอำลาทีมของ คล็อปป์ ในครั้งนี้ดูจะกระทันหัน และดูเหมือนจะทำให้ทิศทางของทีมนั้นสูญเสียไปหรือไม่ คงต้องมาติดตามกันต่อ แต่เชื่อว่าสิ่งที่ คล็อปป์ ได้สร้างไว้ให้กับ ลิเวอร์พูล ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา จะยังคงเป็นตำนาน และอยู่ในใจแฟน หงส์แดง ตราบนานเท่านาน

Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Most Popular

To Top