ประวัตินักกีฬา

เดนเซล ดุมฟรีส์ แบ๊กจอมพลัง คีย์แมนสำคัญที่ส่ง อินเตอร์ มิลาน เข้าชิง แชมเปียนส์ ลีก

เดนเซล ดุมฟรีส์

เดนเซล ดุมฟรีส์ โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นเหลือเกิน ทั้งยิงประตู และแอสซิสต์ ช่วยให้ อินเตอร์ มิลาน เอาชนะ บาร์เซโลนา ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2024/25 ได้สำเร็จ 

เดนเซล ดุมฟรีส์ เกิดเมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1996 ที่เมืองรอตเทอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ แม้เขาจะมีเชื้อสายอารูบาและซูรินาเมจากฝั่งครอบครัว แต่ก็เลือกเล่นให้กับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่ในระดับเยาวชน เส้นทางฟุตบอลของเขาเริ่มต้นอย่างเรียบง่ายในลีกสมัครเล่น ก่อนจะก้าวเข้าสู่วงการฟุตบอลอาชีพในปี 2014 กับทีมสปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัม ซึ่งในเวลานั้นยังอยู่ในระดับดิวิชัน 2 ของเนเธอร์แลนด์

ด้วยความขยันและความมุ่งมั่น เขาสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้ตั้งแต่อายุยังน้อย และมีส่วนช่วยให้สปาร์ต้าเลื่อนชั้นกลับสู่เอเรดิวิซีได้ในฤดูกาล 2015/16 จากนั้นในปี 2017 เขาย้ายไปร่วมทีมฮีเรนวีน และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันน่าจับตามองในฐานะแบ็กขวาที่วิ่งไม่มีหมด เล่นเกมรุกได้ดุดัน จนในปี 2018 เขาได้ย้ายไปอยู่กับพีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ทีมยักษ์ใหญ่ของลีกแดนกังหันลม และก้าวขึ้นไปเป็นหนึ่งในฟูลแบ็กที่ดีที่สุดของประเทศ

ในช่วงซัมเมอร์ปี 2021 ดุมฟรีส์ย้ายมาร่วมทัพอินเตอร์ มิลาน แชมป์กัลโช เซเรีย อา ฤดูกาลก่อนหน้า ด้วยค่าตัวราว 15 ล้านยูโร เพื่อทดแทนการจากไปของอัชราฟ ฮาคิมี และนับตั้งแต่วันแรกที่เขาสวมเสื้อ “งูใหญ่” เขาก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ความฟิตที่ยอดเยี่ยม และความสามารถในการเติมเกมบุกที่ทรงพลัง กลายเป็นตัวหลักในระบบวิงแบ็กของกุนซือ ซิโมเน่ อินซากี ได้อย่างลงตัว

ฤดูกาล 2024/25 ถือเป็นหนึ่งในฤดูกาลที่ดีที่สุดในชีวิตค้าแข้งของดุมฟรีส์ เขามีส่วนสำคัญในการพาอินเตอร์ มิลาน ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ได้อย่างยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะผลงานในรอบรองชนะเลิศกับบาร์เซโลนา ที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในแมตช์ที่เขาโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นที่สุด ทั้งเกมที่จูเซ็ปเป เมอัซซา และเกมบุกเยือนคัมป์นู ดุมฟรีส์สามารถจัดการกับแนวรุกของบาร์ซาได้อยู่หมัด แถมยังมีส่วนร่วมกับประตูสำคัญของทีม ทั้งการเปิดบอลที่แม่นยำ การวิ่งไล่เพรสสูง และจังหวะสอดเข้ามาทำเกมในพื้นที่สุดท้ายจนกลายเป็นฝันร้ายของแนวรับบาร์ซา

เดนเซล ดุมฟรีส์

แม้เขาจะไม่ใช่นักเตะที่มีทักษะหวือหวาเหมือนวิงแบ็กยุคใหม่หลายคน แต่ดุมฟรีส์คือแบบฉบับของนักเตะที่เล่นเพื่อทีม วิ่งเต็มร้อยทุกเกม และไม่เคยยอมแพ้ต่อสถานการณ์ใดๆ ความทุ่มเทของเขาคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาได้รับความไว้วางใจจากทั้งโค้ชและเพื่อนร่วมทีมอย่างต่อเนื่อง ตลอดเส้นทางยูซีแอลปีนี้ เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ลงสนามอย่างสม่ำเสมอ และมีสถิติน่าประทับใจ ทั้งจำนวนแอสซิสต์, การสร้างโอกาส, และการเข้าสกัดที่แม่นยำ

โดยสถิติการลงสนามในฤดูกาลปัจจุบัน ดุมฟรีส์  ลงสนามไปแล้ว 41 นัด ยิงไป 10 ประตู ขณะที่ความสำเร็จก่อนหน้า ก็ร่วมพา อินเตอร์ คว้าแชมป์ กัลโช เซเรีย อา 2023/24, โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย และ ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียนา 3 สมัย

ในนามทีมชาติ ดุมฟรีส์ก็มีผลงานที่น่าจดจำเช่นกัน โดยเฉพาะในศึกยูโร 2020 ที่เขาทำประตูให้กับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ได้หลายประตูจากตำแหน่งวิงแบ็ก เขายังเป็นขาประจำในทีมชาติ และมีบทบาทในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ซึ่งเนเธอร์แลนด์สามารถเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ

ด้วยวัย 29 ปี ในปี 2025 ดุมฟรีส์ ยังคงอยู่ในช่วงพีคของอาชีพ และฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของเขากับอินเตอร์ มิลานในฤดูกาลนี้ ทำให้ชื่อของเขาถูกยกย่องในระดับทวีปยุโรปอีกครั้ง ซึ่ง ดุมฟรีส์ ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเขาคือหัวใจสำคัญของอินเตอร์ มิลาน อย่างแท้จริง

Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Most Popular

To Top