ในบรรดานักฟุตบอลชาวเซอร์เบียที่เคยโลดแล่นในยุโรป เดยัน สแตนโควิช คือหนึ่งในมิดฟิลด์ ที่โลกฟุตบอลต่างยกย่อง เขาเป็นกองกลางสารพัดประโยชน์ผู้ผสานพละกำลังเข้ากับเทคนิคอันเฉียบคม ขณะที่ปัจจุบันแม้จะแขวนสตั๊ดไปนานแล้ว แต่ก็ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการฟุตบอลในฐานะกุนซือ
เดยัน สแตนโควิช เกิดเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1978 ที่กรุงเบลเกรด เขาเติบโตมาในครอบครัวที่คลุกคลีอยู่กับฟุตบอลมาตลอด ทำให้เส้นทางสายลูกหนังเป็นสิ่งที่เขาเลือกเดินตั้งแต่วัยเยาว์ โดยเริ่มต้นกับทีม FK Teleoptik ก่อนจะถูกดึงเข้าสู่ระบบเยาวชนของ เรดสตาร์ เบลเกรด สโมสรยักษ์ใหญ่ของเซอร์เบียในปี 1992 จากนั้นเพียงสามปีเขาก็ได้เดบิวต์ในทีมชุดใหญ่ด้วยวัยเพียง 16 ปี และสามารถยิงประตูได้ทันที ทำลายสถิติเดิมของสโมสรในฐานะนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูได้
ช่วงเวลาอันโดดเด่นในบ้านเกิดส่งให้เขาถูก ลาซิโอ ดึงตัวไปร่วมทีมในปี 1998 และที่กรุงโรม เขากลายเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของทีมยุคทองของ “อินทรีฟ้าขาว” ซึ่งคว้าแชมป์เซเรีย อา ฤดูกาล 1999/2000, โคปปา อิตาเลีย และยูฟ่าซูเปอร์คัพ ภายในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปี เขาเป็นหนึ่งในกองกลางที่ครบเครื่องที่สุดของกัลโช่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน ในปี 2004 ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่พลิกชะตา
กับอินเตอร์ สแตนโควิช คือหนึ่งในกำลังหลักของทีมในยุคทองที่คว้าแชมป์เซเรีย อา 5 สมัยติดต่อกันระหว่างปี 2006–2010 และไฮไลต์สูงสุดอยู่ในฤดูกาล 2009/10 เมื่อเขาคือส่วนหนึ่งของทริปเปิ้ลแชมป์ประวัติศาสตร์ (เซเรีย อา, โคปปา อิตาเลีย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก) ภายใต้การนำของโชเซ่ มูรินโญ่ เขาลงเล่นให้ทีม “งูใหญ่” ไปมากกว่า 230 นัดและยิงได้ 29 ประตู ก่อนจะตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปี 2013
บทบาทในทีมชาติของเขาก็โดดเด่นไม่แพ้กัน สแตนโควิชติดทีมชาติตั้งแต่ยุคยูโกสลาเวีย และยังคงอยู่ในทีมต่อเนื่องจนกระทั่งกลายเป็นกัปตันของทีมชาติเซอร์เบีย เขาคือหนึ่งในนักเตะไม่กี่คนที่ได้เล่นฟุตบอลโลกถึง 3 สมัยภายใต้ 3 ประเทศ ได้แก่ ยูโกสลาเวีย (1998), เซอร์เบีย–มอนเตเนโกร (2006) และ เซอร์เบีย (2010) โดยลงสนามรวม 103 นัดและยิงได้ 15 ประตู
หลังจากแขวนสตั๊ด สแตนโควิชเข้าสู่การเป็นโค้ชอย่างจริงจัง เขาเริ่มต้นบทบาทในองค์กรยูฟ่า ก่อนจะกลับไปคุมทีมเก่าอย่าง เรดสตาร์ เบลเกรด ในช่วงปี 2019–2022 ซึ่งเขาพาทีมคว้าแชมป์ลีกเซอร์เบีย 3 สมัยติด พร้อมกับสร้างสถิติไร้พ่ายตลอดฤดูกาล 2020/21 ต่อด้วยการไปคุม ซามพ์โดเรีย ในอิตาลีช่วงสั้น ๆ แม้ไม่สามารถพาทีมรอดตกชั้นได้ แต่ก็ได้รับการยอมรับในเรื่องแนวทางการทำทีม
ปี 2023 เขาย้ายไปคุมทีม เฟเรนซ์วารอช ยอดทีมจากลีกฮังการี และพาทีมคว้าแชมป์ลีกทันที รวมถึงผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ของยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีก และในปี 2024 สแตนโควิชได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเฮดโค้ชของ สปาร์ตัก มอสโก ทีมยักษ์ใหญ่ในรัสเซีย ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง พาทีมจบอันดับ 4 ของลีกในฤดูกาลแรก พร้อมคว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนพฤศจิกายน–ธันวาคม และได้รับการต่อสัญญาจนถึงปี 2027
ปัจจุบัน เดยัน สตานโควิช ในวัย 46 ปี ยังคงเดินหน้าในเส้นทางโค้ชอย่างมุ่งมั่น และยังคงสร้างตำนานต่อในฐานะโค้ช ซึ่งหวังว่าเขาจะประสบความสำเร็จ เหมือนที่ทำได้เมื่อสมัยยังเป็นนักเตะ