ประวัตินักกีฬา

เธียร์รี อองรี ดาวยิงผู้เป็นดั่งตัวแทนสัญลักษณ์ในยุคทองของ อาร์เซนอล

เธียร์รี อองรี

ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา หากจะกล่าวถึงหนึ่งในสุดยอดกองหน้าที่โลกฟุตบอลเคยมี ชื่อของ เธียร์รี อองรี ย่อมต้องติดอยู่ในลิสต์อันดับต้น ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย อองรีคือสัญลักษณ์ของความเร็ว เทคนิค และความเฉียบคมในการจบสกอร์ และแน่นอนว่าเขาคือผู้เล่นที่ทำให้แฟนบอลหลงรัก

อองรี เกิดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 1977 ที่เมืองเลส์ อูลิส ประเทศฝรั่งเศส โดยมีพื้นเพครอบครัวเป็นชาวแคริบเบียนที่มาตั้งรกรากในฝรั่งเศส เขาเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับทีมเยาวชนของสโมสรโคเลสซี่ ก่อนจะพัฒนาไปสู่การเป็นนักเตะเยาวชนของโมนาโก และในปี ค.ศ. 1994 เขาก็ได้ประเดิมสนามอาชีพกับทีมชุดใหญ่ของอาแอส โมนาโก ภายใต้การคุมทีมของอาร์แซน เวนเกอร์ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างทั้งสอง

หลังจากโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจที่โมนาโก อองรีถูกยูเวนตุส ดึงตัวไปร่วมทีมในปี ค.ศ. 1999 แต่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับฟุตบอลอิตาลีได้ดีนัก ทำให้ในช่วงฤดูร้อนปีเดียวกัน เขาตัดสินใจย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับทีม อาร์เซน่อล ซึ่งการย้ายครั้งนั้นถือเป็นการตัดสินใจที่เปลี่ยนแปลงชีวิตและอาชีพของเขาไปตลอดกาล

ภายใต้การดูแลของอาร์แซน เวนเกอร์ ที่ย้ายมาคุมทัพอาร์เซนอล อองรีถูกดันจากตำแหน่งปีกซ้ายให้มาเป็นกองหน้าตัวเป้า และนั่นก็กลายเป็นการเปิดประตูสู่ความยิ่งใหญ่ เขาพาทีมอาร์เซน่อลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัยในฤดูกาล 2001/02 และ 2003/04 โดยเฉพาะฤดูกาลหลังที่กลายเป็น “The Invincibles” ทีมไร้พ่ายตลอดทั้งฤดูกาล ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่ไม่มีทีมใดในยุคพรีเมียร์ลีกทำได้อีกจนถึงปัจจุบัน

อองรียังคว้ารางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก 4 สมัย และกลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสรอาร์เซน่อลด้วยจำนวน 228 ประตูจากการลงเล่น 377 นัดทุกรายการ เขายังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักข่าวฟุตบอลอังกฤษ (FWA) และสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (PFA) หลายครั้งตลอดช่วงเวลาที่ค้าแข้งในอังกฤษ

เธียร์รี อองรี

ในปี ค.ศ. 2007 อองรีย้ายไปร่วมทีมบาร์เซโลนา และคว้าแชมป์ลาลีกา, โกปา เดล เรย์ และยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ในฤดูกาล 2008/09 ซึ่งเป็นฤดูกาลประวัติศาสตร์ที่ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอลาคว้าทริปเปิลแชมป์ อีกทั้ง อองรียังเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 และยูโร 2000 โดยทำประตูสำคัญในทัวร์นาเมนต์เหล่านั้น และจบเส้นทางทีมชาติด้วยการลงเล่น 123 นัด ยิง 51 ประตู กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดของฝรั่งเศสในขณะนั้น

หลังจากประสบความสำเร็จในยุโรป อองรีย้ายไปเล่นให้กับนิวยอร์ก เรดบูลส์ ในเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ (MLS) ช่วงปี 2010–2014 และในช่วงสั้น ๆ ปี 2012 เขากลับมาเล่นให้อาร์เซน่อลด้วยสัญญายืมตัว สร้างความประทับใจแก่แฟนบอลอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2014

หลังจากแขวนสตั๊ด อองรีผันตัวเข้าสู่วงการโค้ชและวิเคราะห์ฟุตบอล เขาเคยเป็นผู้ช่วยโค้ชทีมชาติเบลเยียมชุดคว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2018 และเคยคุมทีมอาแอส โมนาโก กับ มอนทรีออล ใน MLS แม้ผลงานจะไม่โดดเด่นนัก แต่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการเป็นโค้ชมืออาชีพ ปัจจุบันในปี 2025 อองรีทำหน้าที่เป็นกุนซือของทีมชาติฝรั่งเศสชุด ยู-21 และเป็นโค้ชทีมโอลิมปิกฝรั่งเศส ในโอลิมปิก ปารีส 2024 และเขายังทำหน้าที่วิเคราะห์เกมให้กับสถานีโทรทัศน์ในอังกฤษอย่าง Sky Sports ซึ่งเป็นบทบาทที่ได้รับคำชื่นชมจากผู้ชมอย่างมาก

เธียร์รี อองรี จึงไม่ใช่แค่ชื่อของนักเตะในตำนาน แต่ยังเป็นตัวแทนของยุคทองของอาร์เซน่อลและฟุตบอลฝรั่งเศส เขาคือนักเตะที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์และความสามารถที่ทำให้เขาถูกจดจำในฐานะหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของวงการลูกหนัง

Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Most Popular

To Top