ประวัตินักกีฬา

เนย์มาร์ สุดยอดแข้งพรสวรรค์ สไตล์แซมบ้าขนานแท้ ที่ทั่วโลกยอมรับ

เนย์มาร์

 ในโลกของฟุตบอลคงไม่มีใคร ไม่รู้จัก เนย์มาร์ สุดยอดแข้งพรสวรรค์ทีมชาติบราซิล ที่สร้างปรากฏการณ์ และความสำเร็จมากมาย โดยเฉพาะลีลา และเทคนิกมากมาย ที่เขามักโชว์ให้เห็นทุกครั้งที่ลงสนาม ล้วนตื่นตาตื่นใจ จนนักฟุตบอลหลายคนในปัจจุบันยกให้เขาเป็นแบบอย่าง

 เนย์มาร์ ดา ซิลวา ซานโตส จูเนียร์ หรือที่แฟนบอลรู้จักกันในชื่อ “เนย์มาร์” เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1992 ในเมืองโมจิ ดาส ครูซิส ประเทศบราซิล เขาเติบโตขึ้นในครอบครัวที่หลงใหลในกีฬาฟุตบอล โดยได้รับแรงบันดาลใจจากพ่อของเขา ซึ่งเคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน เนย์มาร์เริ่มต้นเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยทักษะที่ยอดเยี่ยมและความเร็วที่เป็นธรรมชาติ ทำให้เขากลายเป็นที่จับตามองตั้งแต่ยังเด็ก

 เนย์มาร์ เริ่มฝึกฝนฟุตบอลกับสโมสร โปรตุเกสซา ซานติสตา ในปี 1999 จากนั้น เขาก็ย้ายมาอยู่กับ ซานโตส เอฟซี ในปี 2003 โดย เนย์มาร์ พัฒนาฝีเท้าขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งได้โอกาสลงเล่นในทีมชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อปี 2009 ขณะอายุเพียง 17 ปี ซึ่งฝีเท้าของได้สร้างความตื่นตาตื่นใจทุกครั้งที่ลงสนาม

ไม่เพียงแต่การสร้างสรรค์เกมรุกที่มีประสิทธิภาพ และสุดอันตราย และเนย์มาร์ ยังมีเทคนิกที่แพรวพราว มีสไตล์การเล่นที่สวยงาม และทำให้ผู้ชมตื่นเต้นทุกครั้งที่เขาได้สัมผัสบอล เนื่องจากทุกคนต้องลุ้นทุกครั้งว่าจังหวะต่อไป เนย์มาร์ จะทำอะไรให้กับแฟนบอลได้เห็น

 เนย์มาร์ นำทีมซานโตสคว้าแชมป์ลีกในประเทศหลายรายการ รวมถึงแชมป์โคปา ลิเบอร์ตาดอเรสในปี 2011 ซึ่งถือเป็นถ้วยแชมป์ระดับทวีปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอเมริกาใต้  

 จากนั้นในปี 2013 เนย์มาร์ ตัดสินย้ายไปเล่นในยุโรปกับ บาร์เซโลนา ในลาลีกา สเปน ซึ่งการย้ายทีมครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในอาชีพของเขา เขากลายเป็นส่วนหนึ่งของ “MSN” แนวรุกในตำนานร่วมกับลิโอเนล เมสซี่ และหลุยส์ ซัวเรซ พร้อมกับช่วยให้บาร์เซโลนาคว้าแชมป์ลาลีกา, โกปา เดล เรย์ และยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกในฤดูกาล 2014–15 เป็นการคว้าทริปเปิลแชมป์  

หลังจากประสบความสำเร็จกับบาร์เซโลนา มากมายโดยรวมแล้วเป็นแชมป์ลาลีก้า 2 สมัย, โคปาเดลเรย์ 3 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 1 สมัย และฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 สมัย จากนั้น เนย์มาร์ ได้ตัดสินใจย้ายออกจากทีม โดยไปอยู่กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในปี 2017 ด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติโลกในเวลานั้นที่ 222 ล้านยูโร ซึ่งการย้ายทีมครั้งนี้เป็นการยกระดับตัวเองให้เป็นศูนย์กลางของทีมที่มีเป้าหมายคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 

เนย์มาร์

หลังการมาของ เนย์มาร์ ทำให้ เปเอสเช คว้าแชมป์ ลีกเอิง 5 สมัย, คู่เป เดอ ฟรองซ์ 3 สมัย, คูเป เดอ ลีก 2 สมัย แม้จะไม่สามารถคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกได้ แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ และถูกยกย่องให้เป็ นักเตะที่อยู่ในระดับโลก 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายอาชีพของเขา เนย์มาร์เริ่มประสบปัญหาอาการบาดเจ็บบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงที่ย้ายไปเล่นกับสโมสร อัล-ฮิลาล ในซาอุดิอาระเบีย ปี 2023 แม้จะมีความคาดหวังสูง แต่เขาไม่สามารถลงสนามได้เต็มที่ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บรุนแรง และต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานาน   

 ในส่วนกับทีมชาติบราซิล เนย์มาร์ ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีบทบาทสำคัญที่สุด เขาพาบราซิลคว้าแชมป์โคปา อเมริกา ในปี 2019 และเป็นกำลังสำคัญในฟุตบอลโลกหลายสมัย แม้จะยังไม่สามารถคว้าแชมป์โลกได้ แต่เนย์มาร์ก็กลายเป็นนักเตะที่ทำประตูให้ทีมชาติบราซิลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ แซงหน้าเปเล่ ตำนานลูกหนังของประเทศ  

 ปัจจุบันในปี 2025 เนย์มาร์ตัดสินใจย้ายกลับที่ ซานโตส เอฟซี สโมสรบ้านเกิดที่ปลุกปั้นเขาในวัยเยาว์ เพื่อปิดฉากอาชีพค้าแข้งในสถานที่ที่เขาเริ่มต้น 

 แม้ช่วงท้ายของการค้าแข้ง เนย์มาร์ จะบาดเจ็บ และไม่ค่อยได้ลงสนาม แต่มั่นใจว่าเขายังคงได้รับการยอมรับ และยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลบราซิลและของโลก ที่แฟนบอลจะต้องจดจำไปอีกนาน

Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Most Popular

To Top