เป็นอีกหนึ่งแบ๊กขวาที่มีฝีเท้าจัดจ้านสำหรับ เนลสัน เซเมโด แข้งวัย 29 ปี ดีกรีทีมชาติโปรตุเกส ของวูล์ฟแฮมตัน วันเดอร์เรอร์ส ที่ปัจจุบันยังคงยึดตำแหน่งตัวจริง และเป็นนักเตะแกนหลักของทีมเรื่อยมา
เนลสัน คาบราล เซเมโด เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 1993 ที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เขามีเชื้อสายแคปเวิร์ด และโปรตุเกส เติบโตขึ้นมาโดยมีคุณแม่คอยเลี้ยงดู
สมัยยังเด็กนั้นเซเมโด ชอบเล่นวีดิโอเกม ฟีฟ่า เป็นอย่างมาก และเขามักจะเลือกเล่นทีม บาร์เซโลนา อยู่เสมอ เช่นเดียวกับเวลาที่ออกไปเตะฟุตบอลตามท้องถนนกับเพื่อนๆ เขาก็มักจะใส่เสื้อบาร์เซโลนา ตัวเก่งของเขาออกไปเล่น
เมื่อ เซเมโด อายุได้ 15 ปี เขาสามารถคัดฝีเท้าเข้าสู่ทีม ซินเตรนเซ ได้สำเร็จ ก่อนจะฝึกเกลาฝีเท้าอยู่อีก 3 ปี และถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่
เซเมโด เป็นแบ๊กที่มีความเร็วสูง ทั้งยังไปกับบอลได้ดี ทำให้เขาโดดเด่นอย่างมากในเกมรุก ฤดูกาล 2011/12 เขาลงสนามให้ ซินเตรนเซ ไป 27 นัด ยิงไป 5 ประตู ก่อนที่ปีต่อมา จะถูก ฟาติมา ยืมตัวไปเล่นในเซกุนด้า ดิวิชั่น
แม้จะขยับขึ้นมาเล่นในลีกที่สูงขึ้นมาอีกขั้น แต่เซเมโด ก็ยังคงมีฝีเท้าที่โดดเด่น เขายึดตำแหน่งตัวจริงลงเล่นอย่างต่อเนื่อง กระทั่งฤดูกาล 2013/14 เป็น เบนฟิกา ยักษ์ใหญ่ในโปรตุเกส ที่ถูกใจในฟอร์มการเล่นของเขา ก่อนจะดึงตัวมาร่วมทีมในที่สุด
เริ่มแรก เซเมโด ยังต้องเล่นพิสูจน์ตัวเองอยู่กับทีมสำรอง จนฤดูกาล 2015/16 เบนฟิก้า ตัดสินใจดันเขาขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่โดยได้รับโอกาสลงสนามไป 18 นัด ก่อนที่ฤดูกาลต่อมา จะยึดตัวจริงได้สำเร็จ ลงเล่นไป 46 นัด ทำไป 2 ประตู พร้อมกับร่วมคว้าความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ ลีกโปรตุเกส 2 สมัย และเป็นแชมป์ฟุตบอลถ้วยอีก 3 รายการ
ด้วยฟอร์มอันโดดเด่นนี้เอง ทำให้ บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่ในลาลีก้า สเปน ตัดสินใจทุ่มเงินกว่า 30.5 ล้านยูโร บวกออฟชั่น 5 ล้านยูโร ดึงตัวเขามาร่วมทีม และก็เป็นสิ่งที่ทำให้ เซเมโด สมหวังด้วยเมื่อได้ย้ายมาอยู่กับทีมในดวงใจเขาตั้งแต่ยังเด็ก
แต่อย่างไรก็ดี การย้ายมาสู่บาร์เซโลนา เหมือนจะเป็นงานที่ท้าทายสำหรับ เซเมโด เกินไป แม้ว่าเขาจะร่วมคว้าแชมป์ ลาลีก้า สเปน 2 สมัย แชมป์โคปา เดล เรย์ 1 สมัย และซูเปอร์โคปา 1 สมัย แต่ฟอร์มการเล่นของเขานั้นมักจะถูกวิจารณ์อยู่บ่อยครั้ง
แม้ เซเมโด จะโดดเด่นด้านเกมรุกก็จริง แต่เกมรับนั้นเขายังมีหลายสิ่งที่ต้องปรับปรุง ซึ่งบางครั้งเสียหายถึงขั้นทำให้ทีมเสียประตู นั่นทำให้เวลาต่อมา บาร์เซโลนา จึงเริ่มหันความสนใจไปหาแบ๊กขวารายใหม่
ฤดูกาล 2020/21 เซเมโด ถูกบาร์เซโลนา ปล่อยตัวไปให้กับ วูล์ฟแฮมตัน ที่ยื่นข้อเสนอเข้ามา ซึ่ง เซเมโด ก็พยายามจะพิสูจน์ฝีเท้าตัวเองเรื่อยมา ก่อนจะยึดตำแหน่งตัวจริงมาอย่างต่อเนื่อง
แน่นอนว่าจุดอ่อนด้านเกมรับของเขานั่นยังมีให้เห็นในบางนัด แต่นั่นก็ทดแทนด้วยเกมรุกอันโดดเด่น คงต้องมาติดตามกันว่าฤดูกาลนี้ จะเป็นฤดูกาลที่ดีของ เซเมโด หรือไม่
