ส่อจะกลายเป็นนักเตะอีกคนที่โดนอาการบาดเจ็บรั้งตัวไว้ ไม่ได้ไปเล่นในฟุตบอลโลก 2022 สำหรับ เปาโล ดีบาลา แข้งฝีเท้าจัดที่เพิ่งบาดเจ็บเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และยังต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
เปาโล เอเซเคียล ดีบาลา เกิดเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 1993 โดยครอบครัวทางฝั่งคุณพ่อของเขาอพยพมาจาก โปแลนด์ ตั้งแต่สมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 มาอยู่ในเมือง ลากูนา ลาร์กา คอร์โดบา ประเทศอาเจนตินา ขณะที่คุณย่าของเขาก็มีเชื้อสายมาจากอิตาลี อาศัยอยู่ในเมือง เนเปิลส์ ทำให้ตัว ดีบาลา เป็นนักเตะที่สามารถเล่นได้กับทั้ง อิตาลี โปแลนด์ และอาร์เจนตินา
คุณพ่อของ ดีบาลา บรรลุได้ด้วยวิธีไหนไม่ทราบ เขาบอกกับคุณแม่ และเพื่อนๆของเขาว่าลูกๆของเขา จะมีคนหนึ่งกลายเป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียง ก่อนที่วันเวลาต่อมา ดีบาลา จะถือกำเนิดลืมตาดูโลกขึ้นมาเป็นลูกชายคนที่ 3 ของครอบครัว
ราวกับว่า ดีบาลา เกิดมาเพื่อเติมเต็มคำพูดของคุณพ่อให้เป็นจริง เพราะพี่ชายอีก 2 คนของเขา ไม่ได้สนใจฟุตบอลเลย แต่ ดีบาลา นั้นไม่ใช่ เขาสนุกกับมัน และคุณพ่อก็สนับสนุนเขาเต็มที่
มีอยู่ครั้งหนึ่ง คุณพ่อดีบาลา ยอมนำเงินก้อนสุดท้ายที่มี เติมน้ำมันรถให้เต็มที่ถัง เพื่อไว้ใช้พา ดีบาลา ไปฝึกซ้อมฟุตบอล เรียกได้ว่าเขาคือความหวังของครอบครัวเลยทีเดียว
“ไม่มีวันไหนที่พ่อไม่พาผมไปฝึกซ้อม ตอนเด็กๆผมอยากเที่ยวเล่นเหมือนคนอื่น แต่ผมทำไม่ได้ ผมทำได้เพียงขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำและร้องไห้ออกมา” ดีบาลา เล่า
ดีบาล่า ในวัย 8 ขวบ ได้เข้าร่วมกับทีมอคาดามี่ นิเวลส์ โอลด์ บอย ทีมดังในประเทศอาร์เจนติน่า ก่อนจะย้ายไปอยู่กับทีมในบ้านเกิดอย่าง อินสติตูโต พร้อมกับการเคี่ยวเข็นของคุณพ่อ ดีบาลา ได้กลายเป็นนักเตะที่ค่อยๆพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาได้อย่างโดดเด่น แต่สุดท้ายแล้ว คุณพ่อ ก็ไม่ทันได้อยู่เห็นคำพูด หรือคำทำนายของตัวเองเป็นจริง เมื่อเขาจากไปด้วยโรคมะเร็ง ตอน ดีบาลา อายุได้ 15 ปี และนั่นก็เป็นแรงผลักดันให้ ดีบาลา มุ่งมั่น และตั้งใจจะเป็นนักเตะระดับโลก อย่างที่คุณพ่ออยากเห็นให้ได้
ดีบาลา ฝึกฝนฟุตบอลพร้อมกับ เฝ้าดู และเรียนรู้วิธีการเล่นจาก ฮวน โรมัน ริเกลเม อดีตนักเตะชื่อดังอาร์เจนตินา จอมคลาสสิก ผู้เป็นไอดอลของนักเตะอาร์เจนตินาอีกหลายๆคน
“ริเกลเมเกิดมาเป็นลูกคนโตใน จากจำนวน 11 คนในครอบครัวที่ยากจน ความกล้าหาญของเขานำเขาไปสู่ความยิ่งใหญ่ เขายังคงเป็นตัวเลือกของฉันเสมอสำหรับมิดฟิลด์ตัวรุกที่ดีที่สุดในฟุตบอลโลก ริเกลเม คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของอาร์เจนติน่าถึง 4 สมัย นี่เป็นจำนวนเดียวกับที่ดิเอโก มาราโดน่าในตำนานทำ เขานำทีมอาร์เจนติน่าคว้าเหรียญทองโอลิมปิกในปี 2008” ดีบาลากล่าวถึงไอดอลของเขา
ดีบาลา ยกระดับฝีเท้าจนก้าวขึ้นสู่ชุดใหญ่ของ อินสติตูโต ลงเล่นเพียงฤดูกาลแรกก็ซัดไป 17 ประตูจากการลงเล่น 38 นัด นั่นทำให้ ปาแลร์โม ในเซเรีย อา อิตาลี ไม่รอช้าที่จะคว้าตัวเขาไปเล่นทันทีในปี 2012 ด้วยค่าตัว 8.6 ล้านยูโร
เมื่อย้ายมาเล่นในอิตาลี ดีบาลา ยังคงมีฟอร์มที่ยอดเยี่ยม ด้วยความที่เป็นนักเตะตัวเล็ก มีความเร็ว ทั้งยังครองบอลเหนียวแน่น แถมทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาถูกเรียกว่า “นิวเมสซี” ด้วยเหมือนกัน และท่ามกลางความสนใจจากหลายทีมดังในยุโรป สุดท้ายปี 2015 ก็กลายเป็น ยูเวสตุส ยักษ์ใหญ่ในอิตาลี ที่ดึงตัวเขาไปร่วมทีม ด้วยค่าตัว 40 ล้านยูโร
ดีบาลา กลายเป็นกำลังหลักของ ยูเวนตุส แทบจะในทันที เขารักษามาตรฐานการเล่นมาเป็นอย่างดีมาตลอด ทำให้ยังคงเป็นที่ต้องการของหลายทีมยักษ์ใหญ่ เคยมีข่าวกับทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล เรอัล มาดริด ฯลฯ แต่เขาก็ยังคงความตั้งใจเดียวมาตลอด ว่าจะอยู่ในอิตาลี ต่อไป
ดีบาลา พาทีมประสบความสำเร็จต่อเนื่อง ทั้งคว้าแชมป์ เซเรีย อา อิตาลี 5 สมัย โคปา อิตาเลีย 4 สมัย ซูเปอร์โคปปา อิตาเลีย 3 สมัย ลงสนามไปทั้งหมด 293 นัด ยิงไป 115 ประตู แต่แล้ววันที่ต้องจากลาก็ต้องเกิดขึ้น เมื่อช่วง 1-2 ปีหลังมานี้สโมสรไม่ค่อยส่ง ดีบาลา ลงสนามอย่างเคย ทั้งยังมีข่าวลือระบุว่าประธานสโมสรไม่ชอบเขาสักเท่าไหร่ แม้เขาจะยังคงเป็นที่รักของแฟนๆ แต่สุดท้ายก็ต้องเริ่มคิดถึงการย้ายทีมขึ้นมาอย่างจริงจัง
เหตุการณ์คล้ายๆกันนี้ เกิดขึ้นกับทีมชาติ อาร์เจนตินา ที่เขาเลือกเล่นให้จากจำนวน 3 ชาติ ที่เขาสามารถลงเล่นได้ ด้วย แม้ ดีบาลา จะติดทีมชาติอยู่สม่ำเสมอมาตั้งแต่ ปี 2015 อยู่ในชุดลุยฟุตบอลโลก 2018 และชุดคว้าแชมป์โคปา อเมริกา ปี 2021 ก็จริง แต่กลับไม่ได้รับความไว้ใจ หรือโอกาสลงสนามเท่าไหร่นัก รวม 8 ปี ที่รับใช้ชาติมา ฝีเท้าระดับเขาได้ลงสนามเพียงแค่ 34 นัด เท่านั้น แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่เคยปฏิเสธการเรียกตัว แม้จะไปเพื่อนั่งอยู่ข้างสนามก็ตาม
เมื่อไม่ได้รับโอกาสลงสนาม ในขณะที่ฟุตบอลโลกก็งวดเข้ามา ทำให้เขาเลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับ ยูเวนตุส พร้อมกับอำลาทีมทั้งน้ำตา ทั้งที่ยังต้องการอยู่ในสโมสรแห่งนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจเริ่มเส้นทางใหม่กับ โรม่า ในเซเรีย อา อิตาลี เช่นกัน
แน่นอนว่านักเตะระดับ ดีบาลา ไปอยู่ที่ไหนเขาก็อ้าแขนรับ โรมา ได้ยื่นเสื้อหมายเลข 10 ซึ่งเป็นหมายเลขของตำนานอย่าง ฟรานเชสโก ตอตติ ให้เขา แต่เขาเลือกที่จะไม่แบกรับมัน และลงเล่นในฐานะ เปาโล ดีบาลา ตัวของตัวเอง
ดีบาลา ยิงประตูต่อเนื่อง เป็นดาวซัลโว ของทีมในทันที ลงสนามไป 11 นัด ยิงไป 7 ประตู แต่แล้วในเกมกับ เลชเช หลังจากยิงจุดโทษเป็นประตูชัยให้ทีม ในช่วงท้ายเกม อาการบาดเจ็บ ก็มาเยือนเขาจนได้
เขาเดินออกจากสนามทั้งน้ำตา ราวกับรู้ตัวว่าโอกาสที่เขาจะได้ไปฟุตบอลโลกได้หลุดลอยไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังพยายามรักษาตัวอย่างเต็มที่
ล่าสุดมีรายงานว่าอาการของ ดีบาลา ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอาจกลับมาลงเล่นในเกมเซเรีย อา ก่อนพักเบรกบอลโลก ด้วยซ้ำ ขณะที่ วอลเตอร์ ซามูเอล ผู้ช่วยโค้ชของอาร์เจนตินา ก็โทรสอบถามติดตามอาการเขาอย่างเต็มที่ สื่อให้รู้ว่าเขาจะเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติอาร์เจนตินา ในฟุตบอลโลก 2022
หวังว่า ดีบาลา จะสลัดอาการบาดเจ็บออกไปได้ทัน แม้สุดท้ายแล้วเขาจะได้รับโอกาสลงเล่นหรือไม่ แต่ก็เชื่อว่าเขาต้องการที่จะติดทีมไปเพื่อช่วยเหลือทีมชาติที่เขาเลือกลงเล่นให้ ไม่ว่าจะในทางใด หรือมันจะน้อยนิดก็ตาม
