โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อดีตนักเทนนิสชายมือ 1 โลกจากสวิตเซอร์แลนด์ เผยความรู้สึกหลังลงเล่นแมตช์สุดท้ายของอาชีพก่อนที่จะแขวนแร็กเก็ตอย่างเป็นทางการ
โดย เฟเดอเรอร์ เพิ่งลงสนามแมตช์สุดท้ายของอาชีพในศึกเทนนิสชิงแชมป์ประเภททีม “เลเวอร์ คัพ 2022” ที่สนามโอทู อารีนา กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 23 กันยายน โดยจับคู่กับ ราฟาเอล นาดาล อดีตคู่ปรับชาวสแปนิช ในฐานะทีมยุโรป
อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วคู่ของ เฟเดอเรอร์ และนาล เป็นฝ่ายพ่ายต่อคู่ของ แจ็ก ซ็อก และฟรานเชส ติอาโฟ 2 นักหวดจากสหรัฐอเมริกาจากทีมเวิลด์ หรือทีมรวมดาราโลก 1-2 เซ็ต 6-4, 6-7 (2-7), 9-11
หลังการแข่งขันนักหวดวัย 41 ปีให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาถึงความรู้สึกว่า “นี่เป็นส่วนที่ผมกังวลมากเกี่ยวกับการถือไมโครโฟน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมกลัวช่วงเวลานี้มาก จนทำให้ผมกังวลจริงๆ ผมสามารถเตือนตัวเองได้ ช่างวิเศษเหลือเกิน”
“นี่ไม่ใช่จุดจบ ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ผมแข็งแรง ผมมีความสุข ทุกอย่างดีมาก และนี่เป็นเพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น นี่เป็นวิธีการที่ผมสามารถพูดทุกอย่างที่ผมต้องการ ผมแค่ทำให้แน่ใจว่าได้ถ่ายทอดความหลงใหลในกีฬานี้ให้กับแฟน ๆ และให้พวกเขารู้ว่าหวังว่าเราจะได้พบกันอีกครั้งในสนามเทนนิสประเภทต่าง ๆ ทั่วโลก”
“ผมไม่มีแผนใดๆ ว่าที่ไหน อย่างไร เมื่อไร ทั้งหมดที่ผมรู้คือ ผมชอบไปเล่น และเล่นในที่ที่ผมไม่เคยเล่นมาก่อนหรือไปกล่าวขอบคุณเป็นเวลาหลายปีที่จะมาหาทุกคนที่ให้การสนับสนุนผม มันเป็นวันที่วิเศษมาก ผมมีความสุข และไม่มีความเศร้าใดๆ”
ขณะที่ ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสชายมือ 3 โลกซึ่งได้ลงเล่นเคียงข้างกับ เฟเดอเรอร์ ในแมตช์สุดท้ายของอาชีพให้สัมภาษณ์ถึงการแขวนแร็กเก็ตของรุ่นพี่รายนี้ว่า “สำหรับผม รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลาที่น่าทึ่งนี้ของประวัติศาสตร์กีฬาของเรา และในขณะเดียวกันก็ร่วมแบ่งปันสิ่งต่างๆ มากมายร่วมกัน”
“ผมคิดว่าทุกปีความสัมพันธ์ส่วนตัวจะดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน ผมคิดว่าในบางแง่ที่เราเข้าใจในตอนท้ายเรามีหลายสิ่งหลายอย่างที่คล้ายกัน เราเข้าใกล้ชีวิตอาจจะคล้ายกัน”
“ในสนาม เรามีสไตล์ที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง และนั่นคือสิ่งที่อาจทำให้แมตช์ของเรา และการแข่งขันของเราเป็นหนึ่งในเกมที่ใหญ่ที่สุด และน่าสนใจที่สุด”
“ผมภูมิใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอาชีพของเขาในทางใดทางหนึ่ง แต่มีความสุขมากกว่าที่จะจบอาชีพของเราเหมือนเพื่อนหลังจากทุกสิ่งที่เราแบ่งปันในสนามเหมือนคู่แข่ง”