โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ตำนานนักเทนนิสสวิตเซอร์แลนด์ เผยยังคงติดตามข่าวสารวงการกีฬานี้อย่างใกล้ชิด พร้อมพูดถึงการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคใหม่ว่ามีความโดดเด่น
สำหรับเฟเดอเรอร์เริ่มหวดอาชีพมาตั้งแต่ปี 1998 ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ของวงการ ได้แชมป์แกรนด์สแลมไปถึง 20 ครั้ง ประกอบด้วย ออสเตรเลียน โอเพ่น 6 สมัย (2004, 2006, 2007, 2010, 2017, 2018), เฟรนช์ โอเพ่น 1 สมัย (2009), วิมเบิลดัน 8 สมัย (2003, 2004, 2005, 2006, 2007, 2009, 2012, 2017) และยูเอส โอเพ่น 5 สมัย (2004, 2005, 2006, 2007, 2008) และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เหล่าผู้คนที่ชอบกีฬาเทนนิส โดยเจ้าตัวแขวนแร็กเก็ตไปเมื่อปี 2022 หลังไม่สามารถฝืนอาการบาดเจ็บจนทำให้ร่างกายไม่ฟิตเต็มร้อยเหมือนเดิม
หลังจากแขวนแร็กเกต เฟเดอเรอร์ ก็มักจะปรากฏตัวในงานอีเวนต์ที่เกี่ยวข้องกับเทนนิสเสมอ รวมถึงได้รับ้ชิญให้เข้าไปเป็นแขกพิเศษของแกรนด์สอลม วิมเบิลดัน 2023 ที่ผ่านมาด้วย
ก่อนหน้านี้ เฟเดอเรอร์ ให้สัมภาษณ์ว่า เขาจะไม่หายไปจากวงการเทนนิสอย่างแน่นอนแม้จะไม่ได้แข่งขันแล้วก็ตาม โดยอาจจะไปเล่นในเกมการกุศล หรือผันบทบาทมาเป็นนักวิจารณ์เทนนิสทางโทรทัศน์ เป็นต้น
จนกระทั่งล่าสุดอดีตผู้เล่นทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ระบุว่า ถึงทุกวันนี้เขาก็ยังติดตามวงการเทนนิสอย่างใกล้ชิด พร้อมชื่นชมผู้เล่นรุ่นใหม่ๆ ว่า มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าสนใจ “แน่นอนว่าในวงการเทนนิสยังคงมีอะไรเกิดขึ้นมากมายเช่นเดิม และการเปลี่ยนแปลงสู่รุ่นใหม่ก็โดดเด่น เหล่าผู้เล่นใหม่มีภาพลักษณ์ที่น่าสนใจและวิธีการเล่นของพวกเขาก็สุดยอด ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม ซึ่งผมยังคงติดตามอย่างใกล้ชิดมาก”
นอกจากนั้น เฟเดอเรอร์ ยังกล่าวถึงกิจกรรมประจำวันของตัวเองว่า เขาได้ใช้เวลากับลูกๆ ทั้ง 4 คน มากขึ้น “กาใช้ชีวิตหลังรีไทร์มันเป็นบททดสอบ ในอีกระดับหนึ่งอย่างแน่นอน แล้วผมหมายถึงว่าเกิดอะไรขึ้น ผมยังอยู่ในยิม จริงๆ แล้วผมก็แปลกใจที่ได้ไปยิม เวลาในแต่ละวันนั้นยาวนาน แต่ในขณะเดียวกัน ผมยังคงรู้สึกว่าตัวเองมีเวลาไม่เพียงพอ รู้ไหม เพราะว่าผมจัดตารางงานของผมแน่นเกินไป ลูกๆ ของผม 4 คนก็จะทำแบบนั้นกับคุณเช่นกัน ดังนั้น ปัจจุบันนี้ ผมเป็นนักขับรถมืออาชีพ ทั้งเป็นผู้จัดงาน และเป็นคนทำงานด้านโลจิสติกส์ด้วย”
