ชอน เมอร์ฟี นักสนุกเกอร์วัย 42 ปี มืออันดับ 10 ของโลกชาวอังกฤษ และแชมป์มาสเตอร์สคนปัจจุบัน เปิดเผยว่า หากเขาไม่ได้เป็นนักสนุกเกอร์อาชีพ เส้นทางอาชีพที่เขาอาจเลือกเดินคือการเข้าสู่วงการบันเทิง
เมอร์ฟี เจ้าของฉายา “The Magician” ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ In The Frame ทาง YouTube ว่าเขารู้สึกแปลกใจที่เพื่อนร่วมอาชีพหลายคนไม่ได้ให้ความสำคัญกับการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชม โดยเขาเชื่อว่าหากไม่ได้เป็นนักสนุกเกอร์ เขาอาจได้ทำงานในวงการละครเวทีของ West End เนื่องจากตัวเองเป็นคนที่ชอบการแสดงออก
“ผมรู้สึกสับสนมาโดยตลอดเกี่ยวกับนักสนุกเกอร์คนอื่น ๆ ที่ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับคนดู” เมอร์ฟีกล่าว “ลองคิดดูสิ ถ้าคุณไปดูละครเวทีที่ West End แล้วตอนจบการแสดง นักแสดงเดินออกไปเฉย ๆ โดยไม่โค้งขอบคุณคนดู คุณก็คงรู้สึกแปลก ๆ ใช่ไหม? ผมคิดว่าผมเป็นคนที่ชอบการแสดงออก และถ้าผมไม่ได้เล่นสนุกเกอร์ ผมอาจจะหาทางเข้าสู่วงการนี้ก็เป็นได้”
“ดังนั้น ผมคิดว่าการให้ความสำคัญกับผู้ชมเป็นสิ่งสำคัญ พวกเขาให้การสนับสนุนคุณ มันคงแปลกมากถ้าคุณแค่เดินจากไปโดยไม่แสดงความขอบคุณ” เมอร์ฟี่ กล่าว
สำหรับ เมอร์ฟี เพิ่งคว้าแชมป์สนุกเกอร์ เดอะ มาสเตอร์ส เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา พร้อมรับเงินรางวัลสูงถึง 350,000 ปอนด์ หรือราว 15.2 ล้านบาท ในขณะที่นักแสดงละครเวที West End มีรายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ราว 32,780-45,760 ปอนด์ ตามข้อมูลของ London Theatre Direct
นอกจากนั้น เมอร์ฟียังเรียกร้องให้มีการปรับเปลี่ยนกติกาของสนุกเกอร์ โดยเฉพาะเรื่องของ “Miss Rule” และการใช้ลูกขาวแบบมีจุด (Spotted Cue Ball) ในการแข่งขัน
“ผมจะใช้ลูกขาวแบบมีจุดต่อไป เพราะเราได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากจากแฟนๆ” เมอร์ฟีกล่าว “พวกคุณชอบที่จะเห็นการหมุนของลูกสนุกเกอร์ และวิธีที่ลูกขาวถูกควบคุม ซึ่งผมคิดว่ามันควรนำมาใช้จริงในการแข่งขัน เพราะปัจจุบัน สนุกเกอร์เป็นกีฬาโต๊ะชนิดเดียวที่ไม่ได้ใช้ลูกขาวประเภทนี้”
สำหรับกฎ Miss Rule เมอร์ฟีแสดงความเห็นว่า “ผมรู้สึกว่ามันแปลกมากที่เรามีกฎที่เปิดโอกาสให้นักสนุกเกอร์มีโอกาสทดลองเล็งลูกซ้ำได้ ผมคิดว่ากฎนี้ควรถูกตัดออกไปจากเกมเลย เพราะผมไม่ชอบมันเลยจริงๆ”