อาร์แซน เวนเกอร์ ตำนานกุนซือของอาร์เซนอล แสดงความเห็นว่าทีมที่ได้เแชมป์ยูโรป้า ลีก ไม่สมควรได้สิทธิ์เล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อัตโนมัติ พร้อมแนะนำให้ยูฟ่าคิดทบทวนเงื่อนไขใหม่
อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตผู้จัดการทีมอาร์เซนอล ซึ่งปัจจุบันรับตำแหน่งประธานฝ่ายพัฒนาฟุตบอลทั่วโลกของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า คนปัจจุบัน แสดงความเห็นถึงเรื่องโควต้าอัตโนมัติของทีมที่ได้แชมป์ฟุตบอลยูโรป้า ลีก ที่จะได้สิทธิ์เล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลถัดไป โดยระบุว่าไม่ควรให้สิทธิ์ดังกล่าว
โดยเงื่อนไขดังกล่าว สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า ได้เปลี่ยนให้แชมป์ ยูโรปา ลีก ได้สิทธิ์ขยับขึ้นไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลถัดไป ถ้าหากทีมนั้นๆ มีอันดับในลีกไม่ติดเกณฑ์ ซึ่งฤดูกาลนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ มีลุ้นในเส้นทางดังกล่าว
ซึ่ง อาร์แซน เวนเกอร์ แสดงความเห็นถึงเรื่องสิทธิ์ดังกล่าว โดยระบุว่าเขาไม่เห็นด้วย “ไม่เลย พวกเขาควรจะได้สิทธิ์ในการแข่ง ยูโรปา ลีก อีกครั้งโดยอัตโนมัติก็พอ ไม่ใช่ได้สิทธิ์ขึ้นไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยเฉพาะเมื่อคุณเป็นทีมใน พรีเมียร์ลีก ที่มีสิทธิ์ทีมที่ได้ไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก มากถึง 5 สโมสร เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว”
“ผมคิดว่าพวกเขา (ยูฟ่า) ต้องประเมินและตรวจสอบ แต่อีกมุมหนึ่งก็คงมีคนที่บอกว่าคุณจำเป็นต้องให้รางวัล (ได้แชมป์ยูโรป้า ได้สิทธิ์แชมเปี้ยนส์ ลีก) เพื่อช่วยให้หลายทีมมีความมุ่งมั่น สนใจ และมีแรงกระตุ้นในการถ้วยยูโรป้า ลีก)”
นอกจากนี้ยังมี เอ็มมานูเอล เปอตีต์ อดีตนักเตะชาวฝรั่งเศส ก็แสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยจี้ไปว่าทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ไม่คู่ควรจะได้เล่นในถ้วยใหญ่ยุโรป เนื่องมาจากผลงานในลีกที่ย่ำแย่
“ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสสร้างผลงานจากฤดูกาลอันย่ำแย่ของพวกเขาได้หากเป็นแชมป์ใน ยูโรปา ลีก แต่พวกเขาสมควรได้เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าจริงๆ เหรอ คำตอบคือไม่สักนิดเดียว พวกเขาต่างก็ไม่คู่ควรที่จะได้เป็นหนึ่งในทีมที่ได้เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า”
“ผมอวยพรให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้สวยในการเจอกับ แอธเลติก บิลเบา แต่ลองนึกย้อนถึงเกมกับ ลียง วันนั้น ลียง ควรจะชนะ ยูไนเต็ด กรณีของ สเปอร์ส อาจจะน่าเซอร์ไพรส์นิดหน่อย แต่ฤดูกาลนี้ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เห็นสิ่งดีๆ จาก สเปอร์ส หรือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พูดกันตามตรงเลย ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมด้วยซ้าถ้าหนึ่งในสองทีมนั้นได้แชมป์ ยูโรปา ลีก”
