โธมัส ทูเคิล ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน กลายเป็นนายใหญ่ของทีมชาติอังกฤษเป็นที่เรียบร้อย หลังเอฟเอ ประกาศแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
กุนซือชาวเยอรมัน ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับทีมชาติอังกฤษ โดยถือเป็นตัวเลือกหลักของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ มาโดยตลอด หลังจากที่ตำแหน่งดังกล่าวว่างลง หลังแกเร็ธ เซาธ์เกต หลังจากจบศึกฟุตบอลยูโร 2024 ซึ่งปัจจุบัน ลี คาร์สลีย์ กุนซือของทีมชุดรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี รับหน้าที่กุนซือขัดตาทัพ
ล่าสุด สมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ได้ออกแถลงการณ์ โธมัส ทูเคิล อดีตกุนซือทีมเชลซี และ บาเยิร์น มิวนิค เข้านั่งเก้าอี้กุนซือทีมชาติอังกฤษ เป็นที่เรียบร้อยซึ่งเป็นไปตามที่สื่อคาดการณ์ และจะเริ่มงานอย่างเป็นทางการ วันที่ 1 ม.ค. 2025 ส่วนเรื่องระยะสัญญานั้น บีบีซี ระบุว่าอยู่ที่ 18 เดือน หรือจบการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026
หลังการเข้ารับตำแหน่งกุนซือวัย 51 ปี เปิดใจว่า “ผมรู้สึกภาคภูมิใจมากที่ได้รับเกียรติให้เป็นผู้จัดการทีมทีมอังกฤษ”
“ผมมีความรู้สึกผูกพันธ์กับเกมนี้ในประเทศนี้มานานแล้ว และมันทำให้ผมมีช่วงเวลาที่น่าเหลือเชื่อมาบ้างแล้ว”
“การได้มีโอกาสเป็นตัวแทนของอังกฤษถือเป็นสิทธิพิเศษอันยิ่งใหญ่ และโอกาสในการร่วมงานกับกลุ่มนักเตะที่พิเศษและมีพรสวรรค์กลุ่มนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก”
โดยการเข้ามารับงานคุมทีมชาติอังกฤษ ของ ทูเคิล นั้น ทำให้เขากลายเป็นกุนซือชาวเยอรมันคนแรกที่ได้คุมทีมสิงโตคำราม รวมถึงเป็นโค้ชต่างชาติรายที่ 3 ที่นั่งเก้าอี้กุนซือทีมชาติอังกฤษ ต่อจาก สเวน-โกรัน อีริคส์สัน ผู้จัดการทีมชาวสวีเดน ผู้ล่วงลับ และ ฟาบิโอ คาเปลโล กุนซือชาวอิตาลี
ขณะที่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ตำนานกองหลังชาวอังกฤษ แสดงความเห็นเกี่ยวกับการแต่งตั้ง ทูเคิล เข้ามาคุมทีมชาติ โดยแสดงความมั่นใจว่ากุนซือรายนี้ จะพาทีมสิงโตคำรามคว้าแชมป์มาครองได้อย่างแน่นอน
“ผมกล้าพูดเลยว่า โธมัส ทูเคิล จะพา อังกฤษ คว้าแชมป์มาครองได้ในช่วงที่เขาเป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ผมกล้าพูดแบบนั้นเลย เพราะผมไม่คิดว่าเราจำเป็นต้องเพิ่มอะไรมากนัก ช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ตั้งหลายครั้ง แล้วมันจำเป็นต้องเพิ่มอะไรเข้าไปหรือต้องทำอะไรอีกเหรอ ? สิ่งเดียวที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต อาจจะขาดไปคือการเข้าใจหรือความสามารถในการพาทีมชนะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น”
สำหรับ โธมัส ทูเคิล เคยผ่านประสบการณ์คุมทีมระดับสโมสรทั้ง ไมนซ์ 05 , โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ , เปแอสเช , เชลซี , บาเยิร์น มิวนิค และยังเคยคว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก กับ สโมสรโลก ร่วมกับ เชลซี ด้วย
