ซานโดร โตนาลี แข้งจอมฉาวของนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษ สอบสวนเพิ่มเติม เพื่อขยายผลว่าละเมิดกฎการเล่นพนันหลังย้ายมาร่วมทีมในพรีเมียร์ลีกหรือไม่
แข้งวัย 23 ปี ถูกสหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี หรือ FIGC ลงโทษแบนเป็นเวลา 10 เดือน จากข้อหาเล่นการพนันบนแพลตฟอร์มออนไลน์แบบผิดกฎหมาย สมัยยังค้าแข้งให้กับ เอซี มิลาน ในศึกฟุตบอลกัลโช เซเรีย อา อิตาลี และต้องเข้ารับการบำบัดอาการเสพติดการพนันเป็นเวลา 8 เดือนนั่นหมายความว่าฤดูกาลนี้ของกองกลางชาวอิตาลีได้จบลงแล้วเช่นกัน
ล่าสุดสื่อชื่อดังอย่าง เดอะ เทเลกราฟ เสนอข่าวว่า สมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ตัดสินใจที่จะสอบสวน โตนาลี เป็นการเพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบว่าเจ้าตัวได้ละเมิดกฎการห้ามเล่นพนันหลังจากย้ายมาอยู่กับนิวคาสเซิลหรือไม่
จากรายงานมีการระบุเพิ่มเติมว่า หากโตนาลี ถูกเอฟเอ สอบสอนและพบว่ามีความผิดเพิ่ม อาจะเสี่ยงที่เจ้าตัวจะถูกโทษแบนเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากเอฟเอเองก็มีกฎในเรื่องของการข้องเกี่ยวการพนัน แต่อย่างไรก็ตาม เทเลกราฟ ยังกล่าวว่า แต่ก็มีความไปเป็นสูงเช่นกันที่ เอฟเอ จะไม่แบนเพิ่ม หรืออาจจะให้โทษแบนมีผลไปพร้อมกับโทษเดิม หากในกรณีที่โตนาลี ถูกพบว่ามีความผิดจริง
ด้าน แดน แอชเวิร์ธ ผู้อำนวยการกีฬาของนิวคาสเซิล เปิดเผยว่าเขาไม่รู้ว่า เอซี มิลาน อดีตต้นสังกัดของแข้งชาวอิตาลี รับรู้ถึงพฤติของนักเตะมากก่อนหรือไม่ ในช่วงที่ทั้งสองกำลังเจรจาเพื่อทำการซื้อขายนักเตะ
“การค้นหาว่าสโมสรอื่นรู้หรือไม่รู้อะไรเป็นเรื่องยากมากๆ สำหรับผม ดังนั้นเราทำได้แค่เปิดการสอบสวนเป็นการภายใน และดำเนินการด้วยตัวของเราเอง เรื่องนี้สร้างความตกใจให้เราอย่างมาก และสร้างความประหลาดใจอย่างมหาศาล แต่การรับมือในเรื่องนี้ก็เป็นหน้าที่ของเราทุกคน แม้ว่านี่จะเป็นเรื่องใหม่มากๆ ก็ตาม”
นอกจากนี้ผู้อำนวยการทีมสาลิกาดง ยังระบุว่า แข้งวัย 23 ปี กลับมาฝึกซ้อมกับสโมสรแล้วในตอนนี้ และยืนยันว่าทุกคนที่นิวคาสเซิลจะดูแลและสนับสนุนนักเตะ “สิ่งสำคัญคือเขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสโมสร มันสำคัญต่อสุขภาพจิตของเขาเอง เขาจะไม่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ห่างจากสโมสร มีบางกำหนดการที่เขาต้องไปเยือนอิตาลีบ้าง โดยนั่นเป็นส่วนหนึ่งของโครงการบำบัดการติดการพนัน เขาจะกลับไปครั้งละหนึ่งหรือสองวัน”
“เขากลับมาฝึกซ้อมแล้ว สิ่งแรกและสิ่งที่สำคัญที่สุดคือซานโดรก็เป็นคน ทุกคนในห้องนี้ได้ทำสิ่งที่เราไม่ควรทำหรือสิ่งที่เราทำแล้วเสียใจกับมันมาก่อน สิ่งแรกที่เราต้องจัดการคือการดูแลและสนับสนุนเขา”
