เอริก คันโตนา คือหนึ่งในตำนานผู้ยิ่งใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และวงการฟุตบอลในยุค 1990s เขาถือเป็นดาวยิงที่เข้ามาพลิกหน้าประวัติศาสตร์ของแมนฯ ยูไนเต็ด และวางรากฐานความยิ่งใหญ่ให้กับยุคทองของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
เอริก แดเนียล ปิแอร์ คันโตนา เกิดเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 1966 ที่เมืองมาร์กเซย์ ประเทศฝรั่งเศส เขาเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับทีมเยาวชนของโอแซร์ ก่อนจะก้าวขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 จากนั้นเขาผ่านการค้าแข้งกับหลายสโมสรในฝรั่งเศสทั้ง มาร์กเซย์, บอร์กโดซ์, มงต์เปลลิเยร์ และนีมส์ โดยมีชื่อเสียงในฐานะนักเตะที่มีพรสวรรค์สูงแต่เต็มไปด้วยความดุดันและความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งมักทำให้เขามีปัญหากับผู้ตัดสินและสื่อมวลชนเป็นระยะ
ปี 1992 คันโตนาได้ตัดสินใจย้ายมาเล่นในอังกฤษกับลีดส์ ยูไนเต็ด และใช้เวลาไม่นานก็กลายเป็นขวัญใจแฟนบอล ด้วยฝีเท้าและสไตล์การเล่นที่ดุดันและกล้าตัดสินใจ พร้อมพา ลีดส์ คว้าแชมป์ ดิวิชั่น 1 (ภายหลังเปลี่ยนเป็นพรีเมียร์ ลีก) ทว่าจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของชีวิตเขามาในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน เมื่อเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันดึงเขามาร่วมทัพแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวเพียง 1.2 ล้านปอนด์ ซึ่งกลายเป็นการซื้อที่คุ้มค่าที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์สโมสร
ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด คันโตนากลายเป็นมากกว่านักเตะ เขาคือผู้นำของทีมทั้งในและนอกสนาม ช่วยปลุกกระแสความเชื่อมั่นของนักเตะรุ่นเยาว์ในทีม เช่น ไรอัน กิ๊กส์, เดวิด เบ็กแฮม, พอล สโคลส์ และแกรี่ เนวิลล์ โดยตลอดระยะเวลา 5 ฤดูกาลกับแมนฯ ยูไนเต็ด เขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย, เอฟเอคัพ 2 สมัย และลงเล่นให้ทีมไป 185 นัด ทำได้ 82 ประตู ด้วยสไตล์การเล่นที่เฉียบคม ประสานกับการครองบอล การจ่ายบอลแบบมีวิสัยทัศน์ และการยิงไกลที่แม่นยำ ทำให้เขากลายเป็น “ราชา” แห่งโรงละครแห่งความฝันอย่างแท้จริง
แม้จะเป็นที่รักของแฟนบอล แต่คันโตนาก็ไม่เคยห่างไกลจากเรื่องอื้อฉาว หนึ่งในเหตุการณ์ที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลคือเหตุการณ์เมื่อเดือนมกราคม ค.ศ. 1995 ที่เขากระโดดกังฟูคิกใส่แฟนบอลของคริสตัล พาเลซ หลังถูกตะโกนด่าขณะเดินออกจากสนาม เหตุการณ์นี้ทำให้เขาถูกแบนยาว 8 เดือน และถูกปรับเงิน แต่กลับยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็น “แบดบอยผู้ทรงพลัง” ของเขาให้ฝังแน่นยิ่งขึ้นในหัวใจแฟนบอล
คันโตนาตัดสินใจแขวนสตั๊ดอย่างกะทันหันในปี 1997 ด้วยวัยเพียง 30 ปี ซึ่งสร้างความตกตะลึงให้กับวงการฟุตบอล แต่ในขณะเดียวกันก็ถือเป็นการจากลาที่สง่างาม และเปี่ยมด้วยศักดิ์ศรี นับจากนั้น เขาเริ่มหันเหสู่เส้นทางใหม่ในวงการบันเทิง โดยผันตัวมาเป็นนักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์ รวมถึงรับงานถ่ายแบบ และเป็นพรีเซนเตอร์ในหลายโครงการ โดยมีผลงานเด่นอย่างภาพยนตร์เรื่อง Looking for Eric (2009) ที่เขารับบทเป็นตัวเองอย่างยอดเยี่ยม
ปัจจุบันในปี 2025 เอริก คันโตนา ยังคงโลดแล่นในวงการศิลปะและวัฒนธรรม โดยเขาได้กลายเป็นศิลปินเต็มตัว ทั้งในบทบาทของนักแสดง ละครเวที ศิลปินภาพถ่าย และล่าสุดยังเปิดตัวผลงานเพลงในแนวอัลเทอร์เนทีฟอิเล็กทรอนิกส์ที่เขาร่วมแต่งและร้องด้วยตัวเองผ่านชื่อ “Cantona Sings Eric” ซึ่งสะท้อนถึงอารมณ์ ความคิด และตัวตนของเขาในวัยที่โตเต็มที่ไปแล้ว
แม้จะล่วงเลยมากว่า 28 ปีนับตั้งแต่วันที่เขาแขวนสตั๊ด แต่ชื่อของเอริก คันโตนา ยังคงตราตรึงในหัวใจแฟนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเสมอ และเขายังกลายเป็นตำนานที่ไม่มีวันลบเลือนจากโลกฟุตบอล