กลายเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย และเสียหายต่อทีมชาติ ฝรั่งเศส เป็นอย่างยิ่งเมื่อกองกลางคนสำคัญอย่าง เอ็นโกโล กองเต้ อาจหมดสิทธิ์ไปเล่นในฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ เนื่องจากประสบปัญหาอาการบาดเจ็บ และอาจต้องพักยาวไปจนถึงปีหน้า
เอ็นโกโล กองเต้ เกิดเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 1991 เขาอาศัยอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยครอบครัวของเขาอพยพมาจากทวีปแอฟริกา ประเทศมาลี โดยมีพี่น้องทั้งหมด 4 คน
แน่นอนว่าครอบครัวของผู้อพยพส่วนใหญ่นั้นค่อนข้างยากจน ซึ่ง กองเต้ เองก็เช่นกัน ตั้งแต่ยังเด็กเขาต้องออกไปช่วยคุณพ่อเก็บขยะไปขายเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ขณะเดียวกันก็เล่นฟุตบอลที่ชื่นชอบไปด้วย กระทั่งอายุได้ 8 ขวบ เขาได้มีโอกาสเข้าไปฝึกฝนกับทีมเยาวชนของ เจเอส ซูเรสเนส ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของการเข้าสู่เส้นทางการเป็นนักเตะอาชีพ
อย่างไรก็ตามจุดเปลี่ยนของ กองเต้ ก็เกิดขึ้น เมื่ออายุได้ 11 ปี คุณพ่อที่เป็นเสาหลักของครอบครัวมีอันเสียชีวิตลง ทำให้เขาต้องทำงานหนักมากขึ้น ในการเก็บขยะมาขาย วันนึงต้องเดินหลายกิโลเมตร เพื่อทำแทนในส่วนของคุณพ่อที่หายไป ขณะที่คุณแม่ ก็ต้องรับจ้างทำความสะอาดตามบ้านต่างๆ ใช้ชีวิตแบบปากกัดตีนถีบทำให้ ซึ่งนั่นทำให้ กองเต้ กลายเป็นคนที่รู้คุณค่าของเงินเป็นอย่างมาก
ระหว่างที่ต้องหาเลี้ยงครอบครัว เขาก็ทั้งเรียน และเตะฟุตบอลควบคู่ไปด้วย โดยในเวลาต่อมา กองเต้ ได้ย้ายมาอยู่กับทีมสำรองของ บูโลญจน์ ในลีกล่างของฝรั่งเศส แต่เนื่องจากยังไม่ได้สัญญาอาชีพอย่างเต็มตัว ทำให้เขาต้องลงเรียนในมหาวิทยาลัยไปด้วยตอนอายุ 18 ปี เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของชีวิต
ด้วยความขยัน และมีใจสู้อย่างที่เป็นมาตั้งแต่ยังเด็ก นั่นส่งผลมาถึงสไตล์การเล่นฟุตบอลของเขาที่มักจะวิ่งพล่านไปทั่วสนาม แบบไม่มีหมด ทำให้เมื่ออายุได้ 19 ปี บูโลญจน์ มอบสัญญาอาชีพให้กับเขา ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจหยุดพักการเรียน และมาเอาดีทางด้านฟุตบอลอย่างเต็มตัว
“ตอนผมเข้ามาคุมทีมใหม่ ๆ ผมจับนักเตะเยาวชนหลายคนจากศูนย์ฝึกมาทดสอบฝีเท้า รวมถึงเขาด้วย เอ็นโกโล เข้าตาผมแทบจะทันที ทั้งการเคลื่อนที่ เทคนิค ความเรียบง่าย และความอึดของเขา ทำให้ผมสงสัยเลยว่าเขามัวมาทำอะไรอยู่ที่นั่น” จอร์ช ตูร์เนย์ ผู้จัดการทีมบูโลญจน์เล่าถึง กองเต้ ตอนยังเล่นกับทีมสำรอง
เมื่อลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่เพียงฤดูกาลเดียว กองเต้ ก็ได้รับข้อเสนอจาก ก็อง ให้ย้ายไปร่วมทีมในฤดูกาล 2013/14 ก่อนเขาจะเป็นส่วนสำคัญช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นสู่ลีกเอิง ในฤดูกาลต่อมา กระทั่งปี 2015 ก็ไปเข้าตาแมวมองของ เลสเตอร์ ซิตี้ ก่อนจะที่ทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะควักเงินเพียง 5.6 ล้านปอนด์ ดึงตัวเขาไปร่วมทีม
ใครจะเชื่อว่าเพียงปีแรกของ กองเต้ ที่มาพร้อมกับความขยัน เขาวิ่งไปทั่วสนาม ไล่ตัดบอล ทำลายจังหวะคู่แข่ง เป็นห้องเครื่องหัวใจสำคัญที่พาทีม “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” สร้างสร้างปาฏิหาริย์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 134 ปีของสโมสรในฤดูกาล 2015/16 จนซีซันต่อมา เชลซี ได้ทุ่มเงินถึง 32 ล้านปอนด์ คว้าตัวเขามาร่วมทีมในที่สุด
หลังจากย้ายมาเชลซี ปีแรก กองเต้ ก็ยังคงเป็นผู้เล่นที่โดดเด่น เป็นกำลังสำคัญพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2016/17 ได้เหมือนที่ทำมากับ เลสเตอร์ ทำให้เขากลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ของอังกฤษที่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้ 2 ปีซ้อนกับสโมสรต้นสังกัดที่ต่างกัน
นอกจากแชมป์พรีเมียร์ลีกแล้ว กองเต้ ยังพาเชลซี คว้าแชมป์ ยูโรป้า ลีก 1 สมัย แชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก 1 สมัย ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ 1 สมัย
และที่สำคัญเลยกับการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย มาครอง ซึ่ง กองเต ถือเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลาง ที่คอยเก็บกวาด พลางทำลายเกมคู่แข่งอย่างที่เขาทำให้กับ เลสเตอร์ และเชลซี จนได้แชมป์
นอกจากผลงานในสนามแล้ว เรื่องราวนอกสนามของ กองเต้ ก็ได้รับคำชื่นชมไม่แพ้กัน เขาเป็นนักเตะที่ขึ้นชื่อเรื่องความสุภาพ ถ่อมตัว อารมณ์ดี และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ใช้ชีวิตแบบสมถะ ไม่อู้ฟู่หรูหราเหมือนนักเตะชื่อดังทั่วไป ซึ่งนั่นก็เป็นผลมาจากชีวิตในวัยเด็กที่ทำให้เขารู้คุณค่าของเงิน
โชคร้ายที่อาการบาดเจ็บกำลังลักพาตัวเขาไปจากฟุตบอลโลก 2022 ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายกับทั้งทีมชาติฝรั่งเศส และตัวของ กองเต้ ได้แต่หวังว่านักเตะผู้เป็นที่รักของแฟนบอลรายนี้ จะรีบสลัดอาการบาดเจ็บ และกลับมาลงสนามได้โดยเร็ว