แคโรไลน์ วอซเนียคกี อดีตนักเทนนิสหญืงมือ 1 โลกจากเดนมาร์กประกาศคืนวงการเทนนิสอีกครั้งหลังแขวนแร็กเกตไปเมื่อ 3 ปีก่อน โดยรายการแรกที่เธอจะลงแข่งขันคือ แคนาเดียน โอเพ่น เดือน ส.ค.นี้
สำหรับ วอซเนียคกี ประกาศรีไทร์จากวงการไปเมื่อปี 2020 หรือ 3 ปีก่อนหลังจากตกรอบ 3 เทนนิสแกรนด์สแลมรายการออสเตรเลียน โอเพ่น ในวัย 29 ปีเท่านั้นโดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้เธอต้องอำลาวงการนั่นก็คือ การป่วยเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
โดย วอซเนียคกี ถือเป็นหนึ่งในนักเทนนิสหญิงที่ประสบความสำเร็จรายหนึ่งของวงการหลังเธอคยครองอันดับ 1 ของโลกได้ยาวนานถึง 71 สัปดาห์ คว้าแชมป์ในรายการของดับเบิลยูทีเอ 71 รายการ, แชมป์แกรนด์สแลม 1 รายการ คือ ออสเตรเลียน โอเพ่น 2018 และทำเงินรางวัลได้เกือบ 27 ล้านปอนด์
นอกจากนอาการป่วยข้ออักเสบรูมาตอยด์แล้ว อีกสาเหตุสำให้ที่ทำให้เธอแขวนแร็กเกตไป นั่นก็คือ การที่เธอต้องการใช้เวลาในการประสบความสำเร็จทางด้านอื่นของชีวิต โดย วอซเนียคกี ศึกษาอยู่ที่ฮาวาร์ด บิสิเนส สคูล และเธอต้องการจะเดินทางท่องเที่ยว รวมถึงใช้เวลากับครอบครัว และเดวิด ลี สามีซึ่งเป็นอดีตนักกีฬาบาสเกตบอลในศึกเอ็นบีเอ
อย่างไรก็ตามล่าสุด วอซเนียคกี ที่ปัจจุบันมีอายุ 32 ปี และเป็นคุณแม่รอบสองได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร “โว้ก” ว่า เธอจะกลับมาลงแข่งขันอีกครั้งเนื่องจากยังมีเป้าหมายที่ต้องการทำให้สำเร็จ “ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาที่ห่างหายจากเกม ฉันต้องชดเชยเวลาที่เสียไปกับครอบครัว ฉันกลายเป็นแม่ และตอนนี้มีลูกที่น่ารักสองคน ฉันรู้สึกขอบคุณมาก แต่ฉันยังมีเป้าหมายที่ฉันต้องการทำให้สำเร็จ ฉันต้องการแสดงให้ลูกๆ เห็นว่าคุณสามารถไล่ตามความฝันได้ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่หรือมีบทบาทอย่างไร เราตัดสินใจในฐานะครอบครัวว่าถึงเวลาแล้ว ฉันกำลังจะกลับมาเล่น และรอไม่ไหวแล้ว!”
“ฉันประหม่าหรือเปล่า? ไม่นะ เพราะฉันกำลังกลับมาสู่สิ่งที่ฉันรัก ฉันจะชนะ ยูเอส โอเพ่น ได้ไหม? ฉันคิดอย่างนั้น ฉันจะชนะ ออสเตรเลียน โอเพ่น ได้ไหม? ฉันคิดอย่างนั้น นั่นคือเหตุผลที่ฉันทำสิ่งนี้ และฉันคิดว่าเราจะรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“ถ้าฉันไม่เชื่อมั่นในตัวเอง ฉันคงไม่ทำแบบนี้ ฉันแข่งขันเกินไปที่จะแสดงตัว และไม่รู้สึกว่าฉันจะเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุด”
ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่ารายการแรกที่ วอซเนียคกี จะคัมแบ๊กลงสนามนั่นก็คือ แคนาเดียน โอเพ่น 2023 ในเดือน ส.ค.นี้ ก่อนจะเตรียมตัวสำหรับลุยศึกใหญ่ส่งท้ายปีอย่างแกรนด์สแลม ยูเอส โอเพ่น 2023
