แบรดลีย์ บีล การ์ดคนดัง ฟีนิกซ์ ซันส์ ยืนยันตัวเองมืออาชีพพอจะเมินเฉยจากกระแสเทรดทิ้ง หรือถูกดร็อปสำรองให้กับทีมในขณะนี้
สำหรับ บีล เคยเป็นผู่เล่นตัวหลักของทีมอย่างไรก็ตามพอมาถึงในยุคของ เฮดโค้ช ไมค์ บูเดนโฮลเซอร์ เจ้าตัวก็โดนดร็อปเป็นสำรองนัดแรกรอบ 9 ปี เช่นเดียวกับ ยูซุฟ เนอร์กิช เซ็นเตอร์ทีมชาติบอสเนียก็ตกเป็นสำรองตามแท็คติกในเกมเจอกับ ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ ซิกเซอร์ส
ทำให้มีข่าวว่า ซันส์ อาจจะเทรดผู้เล่นวัย 31 ปีรายนี้ออกจากทีมด้วยก่อนที่เดดไลน์ตลาดรอบนี้จะปิดตัวลงในเดือน ก.พ. ในการแลกตัวกับ จิมมี บัตเลอร์ ของ ไมอามี ฮีต แม้ยังมีอุปสรรคสัญญาปีที่ 3 จาก 5 ปี มูลค่ารวมกว่า 251 ล้านดอลลาร์สหรัฐอยู่
ส่วนสถิติส่วนตัว บีล ก็ถือว่าทำผลงานได้น่าพอใจจากการทำเฉลี่ย 18.1 แต้ม, 3.7 รีบาวน์ด และ 3.2 แอสซิสต์ต่อเกมจากการเล่น 32 นัดฤดูกาลนี้
กระทั่งล่าสุด ชูตติงการ์ดดีกรีออลสตาร์ 3 สมัย ออกมาเผยถึงเรื่องอนาคตตัวเอง หลังลงมาเปลี่ยนเกมกดไป 25 แต้มจากม้านั่งข้างสนามช่วย ซันส์ บุกเอาชนะ ซิกเซอร์ส ไป109-99 คะแนนหยุดผลงานแพ้ 4 นัดติด ว่า เขาไม่สนใจเรื่องการโดนเทรด หรือการที่ต้องนั่งสำรอง
“เฮดโค้ชเป็นคนตัดสินใจ ผมเป็นคนประเภทมานั่งหน้าหงิก และโต้เถียงโค้ช ผมไม่มีทางแค่ถูกจับสำรองแล้วจะป่วนสมาธิทีม หรือทำตัวงี่เง่า หน้าที่ผมแค่ลงสนามและเล่นเกมของตัวเอง ทำสิ่งที่ทำได้ ไม่ว่าเรื่องอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด”
“ผมยังเชื่อว่าตัวเองดีพอเล่นตัวจริงในลีกเอ็นบีเอ ไม่ได้หักหน้าใครแต่ผมคือตัวจริง ส่วนเรื่องการเทรด จนกว่ามีอะไรเกิดขึ้นจริงผมจำเป็นต้องรักษาท่าที เพราะถือไพ่เหนือกว่า”
ส่วน เดวิน บูเกอร์ ยอมรับว่า เขาไม่คาดคิดที่ต้องเห็น บีล และเนอร์กิช ถูกดร็อปเป็นสำรอง “มีบางอย่างที่ผมไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น แต่ แบรด ตอบสนองได้ดี นูร์ก ตอบสนองได้ดี พวกเขาไม่ปล่อยให้เรื่องนี้มีน้ำหนักในห้องแต่งตัว มันเป็นส่วนสำคัญ และยิ่งใหญ่ของชัยชนะของเราในคืนนี้”