แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นำทีมสโมสรชั้นนำในยุโรป
ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนไม่เข้าร่วมการแข่งขัน ซูเปอร์ ลีก แม้ก่อนหน้านี้ศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรป จะออกมายืนยันว่า ยูฟ่า และ ฟีฟ่า ไม่สามารถสั่งลงโทษทีมที่เข้าร่วมได้
สำหรับแนวคิดของการก่อตั้ง ซูเปอร์ ลีก เกิดจากที่ 12 สโมสรชื่อดังในยุโรปเกิดแนวคิดจะปฏิรูปการแข่งขันในฟุตบอลระดับยุโรปที่ผูกขาดโดย สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า เพื่อทำการยกระดับและความยั่งยืน และนำพาการแข่งขันฟุตบอลไปสู่ยุคใหม่ อย่างไรก็ตามการแข่งขันดังกล่าวถูกคัดค้านจากทั้ง สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า และ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า รวมถึงลีกดังอย่างพรีเมียร์ลีก พร้อมขู่ว่าจะตัดสิทธิ์การแข่งขันทีมที่เข้าร่วมด้วย
อย่างไรก็ตาม ศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรป แถลงตัดสินว่ายูฟ่า และ ฟีฟ่า ใช้อำนาจควบคุมในทางที่ผิด ถือเป็นการขัดขวางการจัดตั้งการแข่งขันนั้นขัดต่อกฎหมายของสหภาพยุโรป และย้ำว่าทั้งสององค์กรไม่มีสิทธิ์ลงโทษแบนสโมสรห้ามทำการแข่งขันในรายการใด ๆ ก็ตามของพวกเขาได้
แม้คำตัดสินจะออกมาในทางให้ทีมต่างๆสามารถเข้าร่วม ซูเปอร์ ลีก แต่หลายๆทีมได้ออกมาแสดงจุดยืนว่า พวกเขาจะไม่เข้าร่วมการแข่งขันดังกล่าว นำมาโดยทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ออกแถลงการณ์โดยระบุว่า
“จุดยืนของเรายังไม่เปลี่ยน เรายังมุ่งมั่นที่จะร่วมแข่งขันรายการฟุตบอลของ ยูฟ่า เราพร้อมร่วมมือกับ ยูฟ่า พรีเมียร์ลีก และเพื่อนร่วมสโมสรใน สมาคมสโมสรยุโรป เพื่อพัฒนาฟุตบอลในยุโรปต่อไป” แถลงการณ์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระบุ
นอกจากนี้ บาเยิร์น มิวนิก ทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึกฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี ก็ออกแถลงการณ์ไปในทิศทางเดียวกับทีมปีศาจแดง ว่าพวกเขาจะยังคงเข้าร่วมการแข่งขันในรายการของ ยูฟ่า ต่อไป รวมถึง โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์, แอตเลติโก มาดริด, เซบียา และสโมสรในลีกเอิง ฝรั่งเศสทั้งหมด ต่างออกแถลงการณ์ว่าจะไม่เข้าร่วมการแข่งขันซูเปอร์ ลีก เช่นกัน
ขณะที่ รัฐบาลอังกฤษ ก็ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับประเด็นนี้เช่นกัน โดยยืนยันว่าพวกเขาจะออกกฎระเบียบเพื่อไม่ให้สโมสรของประเทศร่วมฟาดแข้งลีกที่จะแยกตัวออกมาก่อตั้งขึ้นใหม่ โดยกล่าวว่า
“ความพยายามแยกตัวออกมาก่อตั้งลีกถูกแฟนบอลของเราประณามเช่นเดียวกับสโมสร และรัฐบาล เราตัดสินใจตามมุมมองของแฟนบอลซึ่งเรียกร้องให้ออกข้อกำหนดใหม่เพื่อให้ฟุตบอลอังกฤษมีความเป็นอิสระ เราจะทำให้มันเป็นจริงในอีกไม่ช้า และจะหยุดยั้งสโมสรเข้าร่วมแข่งขันในลีกที่จะแยกตัวออกมาในลักษณะเดียวกันในอนาคต”