ประวัตินักกีฬา

แอชลีย์ ยัง – แข้งริมเส้นสารพัดประโยชน์ ที่ยังคงเดินบนเส้นทางลูกหนังแม้ในวัย 40 ปี

แอชลีย์ ยัง คือหนึ่งในนักฟุตบอลอังกฤษที่มีเส้นทางอาชีพที่ประสบความสำเร็จ และโลดแล่นอยู่พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ มาอย่างยาวนาน ด้วยความสามารถอันหลากหลายและ…

แอชลีย์ ยัง คือหนึ่งในนักฟุตบอลอังกฤษที่มีเส้นทางอาชีพที่ประสบความสำเร็จ และโลดแล่นอยู่พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ มาอย่างยาวนาน ด้วยความสามารถอันหลากหลายและความทุ่มเท ล่าสุดในวัย 40 ปี เขายังคงเดินหน้าบนเส้นทางลูกหนังอย่างไม่หยุดยั้ง เมื่อ อิปสวิช ทาวน์ ที่เพิ่งตกชั้นจากลีกสูงสุด ลงไปเล่นใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2025/26 ประกาศเซ็นสัญญาคว้าตัวเขามาร่วมทีมเป็นระยะเวลา 1 ปีเรียบร้อยแล้ว

แอชลีย์ ยัง เกิดเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ค.ศ. 1985 ที่เมืองสตีเวนิจ ประเทศอังกฤษ เขาเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลอาชีพกับสโมสรวัตฟอร์ดในปี 2003 โดยเติบโตจากอะคาเดมีของทีมก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมชุดใหญ่ในช่วงเวลาสั้นๆ ด้วยความสามารถในการเล่นทั้งริมเส้นฝั่งซ้ายและขวา รวมถึงลูกตั้งเตะที่แม่นยำ ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่ได้รับความสนใจอย่างมากในลีกแชมเปี้ยนชิพ ก่อนจะย้ายไปร่วมทีมแอสตัน วิลล่าในปี 2007 ด้วยค่าตัวราว 8 ล้านปอนด์

ช่วงเวลาที่แอสตัน วิลล่าถือเป็นยุครุ่งเรืองของแอชลีย์ ยัง เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในพรีเมียร์ลีก ภายใต้การคุมทีมของมาร์ติน โอนีล และกลายเป็นหนึ่งในแนวรุกที่อันตรายที่สุดในลีก เขาสามารถยิงประตูจากระยะไกล, แอสซิสต์ได้อย่างแม่นยำ และมีบทบาทสำคัญในการพาแอสตัน วิลล่าจบอันดับบนของตารางได้หลายฤดูกาล

ในปี 2011 แอชลีย์ ยัง ย้ายไปยังทีมยักษ์ใหญ่อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวประมาณ 17 ล้านปอนด์ โดยการย้ายครั้งนี้เกิดขึ้นในยุคของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และเขาก็มีบทบาทสำคัญทันทีในตำแหน่งปีกซ้าย ก่อนจะถูกปรับบทบาทในช่วงหลังให้ถอยลงมาเล่นแบ็กซ้ายหรือวิงแบ็ก ด้วยความสามารถที่ปรับตัวได้อย่างยอดเยี่ยม เขายังคงยืนระยะในทีมต่อเนื่องแม้เปลี่ยนกุนซือหลายราย ทั้งในยุคของเดวิด มอยส์, หลุยส์ ฟาน กัล, โชเซ่ มูรินโญ่ และโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ โดย ยัง มีส่วนร่วมในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2012/13, เอฟเอคัพ, ลีกคัพ และยูโรปาลีก กับปีศาจแดง

แอชลีย์ ยัง - แข้งริมเส้นสารพัดประโยชน์ ที่ยังคงเดินบนเส้นทางลูกหนังแม้ในวัย 40 ปี

ในปี 2020 แอชลีย์ ยัง ได้ย้ายไปค้าแข้งกับอินเตอร์ มิลาน ในกัลโช่ เซเรีย อา ประเทศอิตาลี โดยเขามีบทบาทสำคัญกับทีมของอันโตนิโอ คอนเต้ และช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์ลีกสูงสุดอิตาลีในฤดูกาล 2020/21 ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของนักเตะอังกฤษที่สามารถประสบความสำเร็จในลีกต่างแดนได้อย่างแท้จริง

หลังจากนั้นเขากลับมาร่วมทีมแอสตัน วิลล่าอีกครั้งในปี 2021 ก่อนจะย้ายไปเอฟเวอร์ตันในฤดูกาล 2023/24 ซึ่งเขายังแสดงให้เห็นถึงความฟิตและประสบการณ์ในการช่วยเกมรับและเกมริมเส้นได้อย่างยอดเยี่ยม แม้อายุจะเพิ่มมากขึ้นทุกปี แต่ความเป็นมืออาชีพของเขายังคงเหนียวแน่นไม่เปลี่ยน

กระทั่งในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2025 เขาได้สร้างความประหลาดใจอีกครั้งเมื่อ อิปสวิช ทาวน์ ที่เพิ่งตกชั้นลงไปในลีก แชมเปี้ยนชิพประกาศเซ็นสัญญากับเขาในวัย 40 ปี เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยคาดว่าจะเข้ามาเป็นผู้นำทั้งในและนอกสนามให้กับทีม

ในระดับทีมชาติ แอชลีย์ ยัง ติดทีมชาติอังกฤษทั้งหมด 39 นัด ยิงได้ 7 ประตู โดยมีส่วนร่วมในทัวร์นาเมนต์ใหญ่อย่างยูโร 2012 และฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งในรายการหลังเขาคือหนึ่งในขุนพลตัวจริงที่พาอังกฤษทะลุถึงรอบรองชนะเลิศภายใต้การคุมทีมของแกเร็ธ เซาธ์เกต

สิ่งที่ทำให้แอชลีย์ ยัง ยืนระยะในอาชีพได้ยาวนานขนาดนี้ไม่ใช่เพียงแค่พรสวรรค์ แต่เป็นเรื่องของวินัย ความทุ่มเท และความเป็นผู้นำ เขาเป็นนักเตะที่พร้อมจะเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงบทบาทตามที่ทีมต้องการ ไม่ว่าจะเป็นตัวรุกหรือตัวรับ และแม้ในวัยที่นักฟุตบอลหลายคนเลือกจะแขวนสตั๊ด เขากลับยังเดินหน้าสู้ต่อไป ซึ่งในจุดนี้ควรค่าแก่การที่เขาจะด้รับการยกย่องจากแฟนบอลทั่วโลก

Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Most Popular

To Top