แอนดี เมอร์เรย์ อดีตนักเทนนิสชายมือ 1 โลกจากสหราชอาณาจักรตั้งเป้าที่จะคว้าชัยให้ได้ถึง 800 แมตช์ในอาชีพหลังเพิ่งได้รองแชมป์รายการ โดฮา โอเพ่น
สำหรับ เมอร์เรย์ เคยเกือบประกาศแขวนแร็กเกตเมื่อปี 2019 หลังเจ้าตัวเจอปัญหาอาการบาดเจ็บสะโพกรบกวนอย่างต่อเนื่องจนต้องเข้ารับการผ่าตัดในบริเวณดังกล่าวถึง 2 ครั้งในช่วงเวลา 2 ปี (ปี 2018 และ2019)
โดยหลังจากนั้นแร็กเกตวัย 35 ปีก็เหมือนยังไม่สามารถหาฟอร์มเก่งเจอได้หลังคว้าแชมป์มาครองได้เพียง 1 รายการจนถึงปัจจุบัน นั่นก็คือ ยูโรเปียน โอเพ่น ในปี 2019 ด้วยการเอาชนะ สแตน วาวรินกา จากสวิตเซอร์แลนด์ 2-1 เซ็ต 3–6, 6–4, 6–4
แน่นอนว่า เมอร์เรย์ รู้ถึงผลงานของตัวเองในช่วงที่ผ่านมา และเจ้าตัวก็ต้องการพัฒนาให้ดีขึ้นด้วยการเข้าคอร์ตฝึกซ้อมแบบพิเศษในช่วงก่อนฤดูกาล 2023 จะเริ่มขึ้น
และการฝึกซ้อมดังกล่าวดูเหมือนจะได้ผลหลังเขาสามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของรายการ โดฮา โอเพ่น ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ โดยไปดวลกับ ดานิอิล เมดเวเดฟ อดีตมือ 1 ของโลกจากรัสเซีย
อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้ว เมอร์เรย์ ต้านความแข็งแกร่งของ เทดเวเดฟ ไม่ไหวทำให้พ่ายไป 0-2 เซ็ต 4-6 และ4-6 จบทัวร์นาเมนต์ด้วยตำแหน่งรองแชมป์
หลังการแข่งขันแร็กเกตมือ 70 ของโลกคนปัจจุบันให้สัมภาษณ์ถึงเป้าหมายต่อไปของตัวเองว่า ต้องการคว้าชัยชนะในการเล่นอาชีพให้ครบ 800 แมตช์ “การมีเป้าหมายและเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญ และบางเป้าหมายนั้นแตกต่างไปจากเมื่อ 5-10 ปีก่อน แต่ผมมีความทะเยอทะยานที่จะชนะการแข่งขัน และเข้ารอบลึกในรายการเมเจอร์ ชนะการแข่งขันจำนวนหนึ่งในอาชีพของผม” เมอร์เรย์กล่าว
“ผมอยากจะชนะให้ได้ถึง 800 นัด ซึ่งผมคิดว่าผมอยู่ห่างอีกสัก 77 แมตช์ มีสิ่งเล็กน้อยที่คุณสามารถทำได้เพื่อให้ตัวเองมีแรงจูงใจ ส่วนหนึ่งของมันคือการเห็นว่าผมทำได้ไกลแค่ไหน ไปกับข้อจำกัดทางร่างกายที่ผมมี”
ทั้งนี้ เมอร์เรย์ เคยประสบความสำเร็จด้วยการขึ้นไปครองตำแหน่งมือ 1 โลกในปี 2016 ทั้งๆ ที่อยู่ในยุคของบรรดาผู้เล่นระดับพระกาฬอย่าง โนวัก ยอโควิช, ราฟาเอล นาดาล และโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ เป็นต้น พร้อมเคยคว้าแชมป์แกรนด์สแลมมาครอง 3 สมัย ประกอบด้วย ยูเอส โอเพ่น 1 สมัย และวิมเบิลดัน 2 สมัย
