เคนนี แอ็ตกินสัน หัวหน้าผู้ฝึกสอน คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส เผยเคล็ดลับในการพาทีมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้เนื่องจากถอดบทเรียนจากความล้มเหลวสมัยคุมทัพ บรูกลิน เน็ตส์
โดย คาวาเลียร์ส ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในฤดูกาลนี้หลังยังเป็นทีมเดียวในลีกเอ็นบีเอที่ครองสถิติไร้พ่ายโดยล่าสุดคือการบุกชนะ ชิคาโก บูลส์ 119-113 คะแนน คว้าชัย 12 นัดติดต่อกัน แมตช์นี้ โดโนแวน มิตเชลล์ ผู้เล่นคนสำคัญทำคนเดียว 36 แต้ม
จากชัยชนะดังกล่าวถือเป็นสถิติที่ดีสุดในลีกนับตั้งแต่ โกลเดน สเตต วอร์ริเออร์ส เคยชนะ 24 นัดรวดในฤดูกาล 2015-16
และคนที่ควรได้รับเครดิตมากที่สุดสำหรับผลงานของ คาวาเลียร์ส นั่นก็คือ แอ็ตกินสัน เฮดโค้ชซึ่งเจ้าตัวเพิ่งได้ฏอกาสกลับมารับงานเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนอีกครั้งหลังโดน บรู๊กลิน เน็ตส์ ไล่ออกเมื่อปี 2020
หลังโดน เน็ตส์ ไล่ออก แอ็ตกินสัน ไปเป็นผู้ช่วยเฮดโค้ช แอลเอ คลิปเปอร์ส, ทีมชาติฝรั่งเศส หรือนานสุดคือกับ โกลเดน สเตต วอร์ริเออร์ส ตั้งแต่ปี 2021 หรือเป็นผู้ช่วยของ สตีฟ เคอร์ จนถึงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
ล่าสุดเฮดโค้ชวัย 57 ปีเผยเบื้องหลังถึงการที่เจ้าตัวพา คาวาเลียร์ส ฟอร์มแรงเนื่องเขาให้ความผิดพลาดในการคุม เน็ตส์ มาแก้ไข “นับจากวันที่ถูก เน็ตส์ ไล่ออกผมคิดว่าตัวเองอดทนมากขึ้น และบริหารสิ่งต่างๆคล่องขึ้นที่ บรู๊กลิน ผมเป็นโค้ชทื่อๆ ที่เน้นเรื่องเกมการเล่นเป็นพิเศษ ก็อย่างว่ามันคือการได้เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนครั้งแรก”
“คุณพยายามจะเอาให้แน่ใจว่าทุกๆ การซ้อมชู้ตตอนเช้าวันแข่งทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ จนมาได้ประสบการณ์การทำงานร่วมกับ สตีฟ เคอร์, ไทโรน ลู และระดับนานาชาติ คลุกคลีกับโค้ชหลายๆ คน ผมรู้สึกว่า ตัวเองเห็นภาพใหญ่ขึ้น ผมบริหารห้องแต่งตัวได้ดีกว่าเดิม, บริหารผู้เล่น, ไม่เครียดไปกับเรื่องหยุมหยิมแบบที่เคยทำ และผมก็แน่ใจว่ามันมาจากวัยวุฒิที่เพิ่มขึ้นด้วย”
ทั้งนี้สื่อหลายสำนักวิเคราะห์ว่า ควาเลียร์ส มีสิทธิ์ทำสถิติไปได้ถึงชนะ 15 นัดรวดช่วงเปิดซีซั่นก่อนต้องไปเจอศึกหนักอย่าง บอสตัน เซลติกส์ แชมป์เก่า