ความเคลื่อนไหวทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ที่กำลังอยู่ระหว่างเก็บตัว เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันตลอดปี พ.ศ. 2567 โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการคว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ให้ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย เพิ่งจะประกาศรายชื่อ 25 นักตบสาว พร้อมกับมีการดัน “โค้ชยะ” ณัฐพนธ์ ศรีสมุทรนาค มารับหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอน แทน “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล ที่ขอพักไปคุมทีมสโมสรในลีกอินโดนีเซีย ขณะเดียวกันก็ดันเอา วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ อดีตนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ชุด 7 เซียน มารับหน้าที่ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน
ล่าสุด “โค้ชกิ๊ฟ” วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ อดีตนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ชุด 7 เซียน และ ผู้ช่วยโค้ชวอลเลย์บอลทีมชาติไทย ได้ไปร่วมงานเปิดตัวสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ภายใต้ธีมงานโอลิมปิกเกมส์ 2024 โดย โค้ชกิ๊ฟ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นที่ “โค้ชยะ” ณัฐพนธ์ ศรีสมุทรนาค เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนแทนที่ “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล จะสามารถคุมทีมได้หรือไม่ ซึ่งเธอยืนยันว่า “โค้ชยะ” สามารถทำทีมต่อจาก โค้ชด่วน ได้อย่างไร้รอยต่อจริงๆ
“สำหรับการเปลี่ยนโค้ช ในความคิดส่วนตัวของกิ๊ฟจริงๆแล้ว จริงๆ โค้ชยะ อยู่ในสต๊าฟโค้ชของทีมชาติชุดใหญ่มาตั้งแต่แรก รวมไปถึงยุคสมัย โค้ชอ็อด และอยู่ด้วยกันมายาวนานตลอดมีเพียงแค่ 2 ปีหลังที่โค้ชยะมูฟไปช่วยทีมชาย”
“ตรงนี้ทำให้หลายคนไม่ได้เห็นว่าโค้ชยะอยู่ในทีม แต่จริงๆ แล้วระบบการทำงานทุกอย่างยังเป็นระบบเดิม รวมถึงผู้ช่วยโค้ช สต๊าฟ ทีมสถิติ ทีมแพทย์ รวมถึงนักกายภาพ ทุกคนก็เป็นชุดเดิมหมด มีการเปลี่ยนแต่โค้ชยะขึ้นมาเป็นเฮดโค้ชเพียงเท่านั้น”
“ส่วนตัวจึงมองว่าน่าจะไม่มีผลต่อระบบมาก เพราะมันเป็นระบบเดียวกันอยู่แล้ว และคนทั้งสองคนก็คงมีการพูดคุย และก็แลกเปลี่ยนแนะนำช่วยเหลือกันอยู่ตลอดอยู่แล้ว”
ก่อนหน้านี้ นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ก็เคยออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า การเปลี่ยนแปลงตัวหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ไม่กระทบกับแผนเตรียมทีมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันของทีม เนื่องจากมองว่าทั้งโค้ชด่วน และโค้ชยะ เสมือนเป็นทีมเดียวกัน เคยทำงานร่วมกันมาก่อน อีกทั้ง ทีมงานชุดเดิมยังอยู่เหมือนกันหมด