โรดรีโก โกเอส ปีกความเร็วสูงชาวบราซิลของ เรอัล มาดริด กำลังตกเป็นเป้าหมายของหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ท่ามกลางข่าวลือหนาหูว่าการเข้ามาของคีลิยัน เอ็มบัปเป้ ทำให้กระทบต่อบทบาทของเขาในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว ซึ่งนั่นอาจทำให้การย้ายทีมกลายเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะเมื่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล เชลซี และอาร์เซน่อล ต่างพร้อมเปิดศึกแย่งลายเซ็นของเจ้าตัวในตลาดนักเตะที่จะถึงนี้
โรดรีโก หรือชื่อเต็มว่า โรดรีโก ซิลวา เดอ โกเอส เกิดเมื่อวันที่ 9 มกราคม ปี 2001 ที่เมืองโอซาสโก ประเทศบราซิล เขาเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับสโมสรซานโตส ทีมดังแห่งแดนแซมบ้าที่เคยปลุกปั้นยอดนักเตะอย่างเปเล่และเนย์มาร์ โดยโรดรีโก้เข้าสู่ระบบอะคาเดมี่ของสโมสรตั้งแต่อายุเพียง 10 ปี และได้รับโอกาสลงเล่นทีมชุดใหญ่ในปี 2017 ด้วยวัยเพียง 16 ปี ซึ่งในฤดูกาล 2018 เขาทำผลงานได้น่าประทับใจ ด้วยการยิงไป 8 ประตูจากการลงสนามในลีก 35 นัด และกลายเป็นหนึ่งในวันเดอร์คิดที่ได้รับความสนใจจากหลายสโมสรในยุโรป
เรอัล มาดริด เป็นทีมที่ไม่ปล่อยโอกาสในการดึงนักเตะพรสวรรค์สูงรายนี้ไว้ โดยในเดือนมิถุนายน ปี 2018 พวกเขาประกาศเซ็นสัญญาคว้าตัวโรดรีโก้ล่วงหน้าด้วยค่าตัวราว 45 ล้านยูโร ก่อนที่เจ้าตัวจะย้ายมาร่วมทีมอย่างเป็นทางการในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 และใช้เวลาไม่นานในการสร้างความประทับใจ โดยเขายิงประตูได้ตั้งแต่เกมเปิดตัวในลาลีกากับโอซาซูน่า และในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน เขาสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการทำแฮตทริกในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ใส่กาลาตาซาราย กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของสโมสรที่ทำแฮตทริกในรายการนี้ได้
นับตั้งแต่ย้ายมาสเปน โรดรีโก ค่อยๆ กลายเป็นหนึ่งในแกนหลักของแนวรุกมาดริด โดยเฉพาะในฤดูกาล 2021/22 ซึ่งเขามีบทบาทสำคัญในเส้นทางสู่การคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก โดยทำประตูสำคัญในเกมกับเชลซีรอบก่อนรองชนะเลิศ และยิงสองประตูในช่วงท้ายเกมรอบรองชนะเลิศกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ช่วยทีมพลิกสถานการณ์ได้อย่างเหลือเชื่อ กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เล่นที่สามารถสร้างอิมแพ็คในเกมใหญ่ได้เสมอ
ในฤดูกาล 2023/24 โรดรีโก้ยังคงรักษาฟอร์มได้อย่างสม่ำเสมอ โดยลงเล่นรวมทุกรายการมากกว่า 40 นัด ยิงประตูได้มากกว่า 15 ลูก พร้อมทำอีกหลายแอสซิสต์ และกลายเป็นผู้เล่นที่สามารถยืนได้ทั้งฝั่งซ้าย ฝั่งขวา หรือแม้แต่ในบทบาทกองหน้าตัวกลาง ด้วยสไตล์การเล่นที่รวดเร็ว เทคนิคยอดเยี่ยม และจบสกอร์ได้เฉียบคม ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในแนวรุกที่ครบเครื่องที่สุดในรุ่นราวคราวเดียวกัน
นอกจากผลงานกับสโมสรแล้ว โรดรีโก้ยังเป็นหนึ่งในขุนพลทีมชาติบราซิลที่ถูกเรียกติดทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2019 โดยมีส่วนร่วมในเกมรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก โคปา อเมริกา และฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ เขาเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนถ่ายเลือดใหม่ในทัพเซเลเซา และได้รับการคาดหมายว่าจะกลายเป็นแกนหลักของทีมชาติในยุคหลังเนย์มาร์
อย่างไรก็ตาม อนาคตของเขากับเรอัล มาดริดเริ่มเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม เมื่อฤดูกาล 2024/25 การเข้ามาของคีลิยัน เอ็มบัปเป้ มีแนวโน้มว่าจะส่งผลต่อโอกาสในการลงเล่นของโรดรีโก้ ซึ่งทำให้หลายทีมในพรีเมียร์ลีกจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังมองหาแนวรุกริมเส้นที่สามารถทะลุทะลวงแนวรับได้ดี และมีประสบการณ์ในเวทีใหญ่
จนถึงเดือนเมษายน ปี 2025 โรดรีโก ลงสนามให้เรอัล มาดริดไปแล้วมากกว่า 200 นัด ยิงได้มากกว่า 50 ประตู และคว้าแชมป์มาแล้วหลายรายการ รวมถึงลาลีกา ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และสแปนิช ซูเปอร์คัพ ด้วยวัยเพียง 24 ปี เขายังมีเวลาอีกมากในการเติบโต และไม่ว่าเส้นทางต่อไปของเขาจะยังอยู่ที่เบร์นาเบวหรือย้ายไปท้าทายในอังกฤษ โรดรีโก ก็ยังคงเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่น่าจับตามองที่สุดในโลกฟุตบอลเวลานี้
