ประวัตินักกีฬา

โรเมลู ลูกากู ศูนย์หน้าร่างยักษ์จอมถล่มประตูกับอนาคตที่ต้องลุ้นกับ เชลซี

โรเมลู ลูกากู

กลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับ อินเตอร์ มิลาน สำหรับ โรเมลู ลูกากู แต่อนาคตของเขายังต้องลุ้นกันต่อไป เนื่องจากฤดูกาลหน้าเขาต้องกลับไปยัง เชลซี สโมสรต้นสังกัดที่แท้จริงที่เคยมีปัญหากันอยู่

 โรเมลู ลูกากู โบลินโกลี เกิดเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 1993 ที่เมืองแอตเวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม เขามีเชื้อสายมองโกล เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลตั้งแต่มีอายุเพียงแค่ 6 ขวบเท่านั้น กับสโมสรเยาวชนในเบลเยี่ยม หลังจาก นั้นในปี 2003 เขาก็ได้ย้ายมาอยู่ในสโมสรวินแทม 

 ลูกากู เป็นคนที่ขยันขันแข็งและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องจึงได้รับความสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับสโมสรในเบลเยี่ยม หลังจากนั้นเพียงแค่ 1 ปีเขาเลยได้ย้ายไปอยู่กับสโมสรใหม่อย่างเลียร์เชอ ก่อนจะใช้เวลาบ่มเพาะฝีมือและทักษะในการเล่นฟุตบอลเป็นระยะเวลายาวนานถึง 7 ปีกับสโมสรดังกล่าวก่อนที่จะได้เข้าร่วมกับสโมสรใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมในทีมเยาวชนของอันเดอร์เลชท์ตอนอายุเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้น

 หลังจากอยู่กับสโมสรใหม่ได้เพียงแค่ 11 วัน เขาต้องลงแข่งขันในรายการชิงแชมป์ฟุตบอลลีกเบลเยียมในดิวิชั่น 1 ทันที แม่รอร แต่การแข่งขันครั้งนั้นจบลงไปด้วยความพ่ายแพ้ เนื่องจากเจ้าตัวอาจจะยังไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสไตล์การเล่นของสโมสรใหม่ได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเขายังคงไม่ยอมแพ้และมุ่งมั่นในการพัฒนาผีมือของตัวเองจน ในที่สุดฤดูกาลนั้นสโมสรก็ยังคงสามารถคว้าแชมป์เบลเยี่ยมแชมเปี้ยนส์ชิพได้สำเร็จ และลูกากู ก็คว้ารางวัลดาวซัลโวได้สำเร็จด้วยการทำประตูไปถึง 15 ประตูในฤดูกาลเดียว

โรเมลู ลูกากู

 ในช่วงเวลาเดียวกับโรงเรียนได้พาเขาไปทัศนศึกษาที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งเป็นสนามเหย้าของ เชลซี ในพรีเมียร์ ลีก ทำให้เขาประทับใจที่แห่งนี้เป็นอย่างมาก และหลังจากที่รับใช้สโมสรอันเดอร์เลชท์กว่า 73 นัด และสามารถทำไปได้ 33 ประตู ทำให้เจ้าตัวได้รับความสนใจและถูก เชลซี ดึงตัวไปร่วมทีมในฤดูกาล 2011/12

 อย่างไรก็ตามนับเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ตอนที่เขาย้ายไปอยู่เชลซีขณะนั้นมีกองหน้ามากมาย เขาจึงไม่ได้รับโอกาสในการลงสนามเท่าไหร่ทำให้ตลอดเวลาที่อยู่กับ เชลซีเขาได้ลงแข่งขันเพียงแค่ 5 นัดเท่านั้น

 ลูกากู ถูก เวสต์บรอมวิช และ เอฟเวอร์ตัน ยืมตัวไปใช้งาน ก่อนที่จะถูกเอฟเวอร์ตัน ซื้อขาดในปี 2014 ด้วยค่าตัวกว่า 28 ล้านปอนด์ ก่อนจะกลายมาเป็นนักเตะที่ประสบความสาเร็จอย่างมาก เขาเป็นศูนย์หน้าที่ร่างกายสูงใหญ่ กำยำ และดุดันทุกครั้งในการลงเล่น โดย 3 ฤดูกาลกับเอฟเวอร์ตัน เขายิงไป 87 ประตูจากการลงเล่น 166 นัด

 ด้วยสถิติถล่มประตูมากมาย ทำให้เขาเป็นที่หมายปองต่อทีมยักษ์ใหญ่มากมาย กระทั่งในปี 2017 แมนยูได้ดึงตัวเขาเข้าร่วมทีม ด้วยค่าตัวกว่า 75 ล้านปอนด์ แต่หลังจากย้ายมายังทีมใหม่ เขาไม่สามารถเค้นฟอร์มที่ดีออกมาได้ ก่อนที่จะถูกขายไปให้กับ อินเตอร์ มิลาน ในเซเรียอา อิตาลี

 จะว่าเป็นทีมถูกโฉลกก็ได้ เพราะลูกากู กลับมาระเบิดฟอร์มได้อย่างสุดยอดกับ อินเตอร์ มิลาน เขาลงเล่นไป 2 ฤดูกาล ยิงไปถึง 64 ประตูจาก 95 นัด พร้อมคว้าแชมป์ เซเรียอา 2020/21, โคปปา อิตาเลีย 2022/23 และ ซูเปอร์โคปปา 2022

 เมื่อฟอร์มกลับมาดี และน่ากลัวเหมือนเก่าทำให้ เชลซี สนใจที่จะดึงตัวเขากลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีก อีกครั้ง แต่ถึงกระนั้น ลูกากู ก็เริ่มมีปัญหาอีกครั้ง เขาเริ่มเล่นไม่ออก และวิพากษ์วิจารณ์ถึงสไตล์การเล่นของเชลซี ที่ไม่เหมาะกับตัวเขา 

 กระทั่งล่าสุดฤดูกาล 2022/23 เชลซี ได้ปล่อยตัวเขาให้ อินเตอร์ มิลาน ทีมเดิมยืมตัวไปใช้งาน และลูกากู ก็กลับมามีฟอร์มที่ดีอีกครั้ง โดยยิงไปได้ถึง 13 ประตู

 อนาคตของลูกากู ในฤดูกาลหน้ายังคงไม่แน่นอน แม้จะมีปัญหากับเชลซี แต่เชลซี เองก็กำลังขาดแคลนศูนย์หน้าที่ไว้ใจได้ ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นทั้งสองฝ่ายเคลียร์ใจกัน และเห็นลูกากู กลับมาลงเล่นในพรีเมียร์ลีก อีกครั้ง

Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Most Popular

To Top