เมซุต โอซิล อดีตกองกลางทีมชาติเยอรมนี และทีมปืนใหญ่ อาร์เซนอล ทีมในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศรีไทร์การค้าแข้งอาชีพอย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยวัย 34 ปี
โดยอดีตแนวรุกทีมปืนใหญ่ โพสต์ข้อความผ่านทางอินสตราแกรมส่วนตัวตัดสินใจแขวนสตั๊ดด้วยวัย 34 ปี หลังต้องเผชิญกับปัญหาอาการบาดเจ็บเรื้อรัง โดยระบุว่า “สวัสดีทุกคน หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ผมขอประกาศรีไทร์อย่างกระทันหันจากฟุตบอลอาชีพ”
“ผมได้รับสิ่งที่พิเศษในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาเกือบ 17 ปีแล้ว และผมรู้สึกซาบซึ้งอย่างมากสำหรับโอกาสนี้ แต่ในช่วงหลายสัปดาห์และหลายเดือนที่ผ่านมา หลังจากได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง มันก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นว่าถึงเวลาต้องอำลาเวทีใหญ่ของฟุตบอลแล้ว”
“มันเป็นการเดินทางที่น่าทึ่ง เต็มไปด้วยช่วงเวลา และอารมณ์ที่ยากจะลืมเลือน ผมอยากจะขอบคุณสโมสรของผม – ชาลเก 04, แวร์เดอร์ เบรเมน, เรอัล มาดริด, อาร์เซนอล, เฟเนร์บาห์เช, บาซักเซฮีร์และโค้ชที่สนับสนุนผม รวมถึงเพื่อนร่วมทีมที่กลายมาเป็นเพื่อนกัน”
“ต้องขอขอบคุณเป็นพิเศษไปยังสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนสนิทของผม พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางของผมตั้งแต่วันแรก และมอบความรักรวมถึงการสนับสนุนมากมายให้ผมผ่านช่วงเวลาที่ดีและเลวร้าย”
“และขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่มอบความรักให้ผมมากมายไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด และไม่ว่าผมจะเป็นตัวแทนของสโมสรไหนก็ตาม ตอนนี้ผมกำลังรอคอยทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าผมกับ อามีน ภรรยาคนสวยของผม และลูกสาวสุดสวยของผมทั้ง 2 คน เอดา และ เอลา แต่คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะได้ติดตามเรื่องราวจากผมเป็นครั้งคราวบนโซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆ ของผม แล้วเจอกันใหม่!”
สำหรับ เมซุต โอซิล เริ่มต้นเส้นทางอาชีพจากทีมเยาวชนของ ชาลเก 04 ก่อนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2006 หลังจากนั้นย้ายไปค้าแข้งให้กับ แวร์เดอร์ เบรเมน ทีมร่วมศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน, เรอัล มาดริด ในลา ลีกา สเปน, อาร์เซนอล ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก่อนย้ายไปลีกตุรกี ร่วมงานกับ เฟเนร์บาห์เช และปิดท้ายที่ อิสตันบูล บาซาคเซฮีร์ อย่างไรก็ตามเขาประสบปัญหาอาการบาดเจ็บที่แผ่นหลังและพักมานานกว่า 4 เดือนแล้ว โดยเขาลงสนามในต้นสังกัดไปเพียง 4 เกมเท่านั้นในฤดูกาลนี้
ขณะที่ในนามทีมชาติ เขาถือเป็นกำลังสำคัญทัพอินทรีเหล็ก โดยพาทีมชุดยู-21 ได้แชมป์ยุโรป ในปี 2009 และทีมชุดใหญ่ได้อันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2010 และคว้าแชมป์โลกในปี 2014 อย่างไรก็ตามเจ้าตัวประกาศอำลาทีมชาติในปี 2018 หลังทีมชาติเยอรมนีล้มเหลวในศึกฟุตบอลโลก หลังถูกแฟนบอลและ ไรน์ฮาร์ด กรินเดล ประธานสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมันและคณะผู้บริหาร ปฏิบัติต่อเขาอย่างไม่เป็นธรรมและมีการเหยียดเชื้อชาติชาวตุรกีของเจ้าตัว
